ตราสารหนี้ตุรกี-ฮ่องกงยังคึกคัก
บลจ. กสิกรไทย เร่งส่งกองทุน 3 เดือน – 1 ปี
ซีรี่ส์ใหม่ลงตลาด
นายนาวิน อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า จากกระแสตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่องจากผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ไม่มากนัก แต่ต้องการทางเลือกในการลงทุนที่ให้โอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าเงินฝาก บลจ.กสิกรไทย จึงยังคงเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศอายุประมาณ3เดือน – 1 ปีอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นทางเลือกในการลงทุนที่สอดคล้องกับแนวโน้มดอกเบี้ยที่ยังคงทรงตัวในระดับต่ำ
โดยในระหว่างวันที่ 16 - 21 เมษายน 2557 บลจ.กสิกรไทยจะเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน บีเอฟ (KFF6MBF) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.80% ต่อปี กองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 3 เดือน เอ็น (KEFF3MN) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.85% ต่อปี กองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน อาร์ (KEFF6MR) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 3.00% ต่อปี และกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี เอ็น (KEFF1YN) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 3.25 % ต่อปี โดยทั้ง 4 กองทุนจะลงทุนส่วนใหญ่ในตราสารหนี้คุณภาพดีของสถาบันการเงินในฮ่องกงและประเทศตุรกี พร้อมนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวนและสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี
“กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศของ บลจ.กสิกรไทย ยังคงมุ่งเน้นการคัดเลือกตราสารที่มีคุณภาพและมีอันดับความน่าเชื่อถือที่ดีควบคู่ไปกับโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าพอใจ ซึ่งเรามองว่า ตราสารหนี้ของประเทศตุรกีและสถาบันการเงินในฮ่องกงยังเป็นทางเลือกที่จะสร้างโอกาสในการลงทุนที่ดีได้ โดยกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน บีเอฟ (KFF6MBF) จะลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ของสถาบันการเงินในสาขาฮ่องกงได้แก่ China Construction Bank Corporation, Bank of China, Bank of East Asia และ ICBC (Asia) Ltd. รวมทั้งยังลงทุนเพิ่มเติมในตราสารหนี้ประเทศไทย ของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด
โดยตราสารที่กล่าวมามีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) และกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน ทั้งนี้ สำหรับกองทุน KFF6MBF ผู้ลงทุนสามารถลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท” นายนาวินกล่าว นายนาวินกล่าวต่อไปว่า สำหรับกองทุน KEFF3MN จะลงทุนส่วนใหญ่ในเงินฝากและตราสารหนี้ของประเทศตุรกี ได้แก่ Garanti Bank, Isbank และ Akbank T.A.S. ร่วมด้วยเงินฝาก China Construction Bank Corporation และยังลงทุนเพิ่มเติมในตราสารหนี้ประเทศไทย ของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ด้านตราสารหนี้ที่กองทุน KEFF6MR จะเข้าไปลงทุนในเบื้องต้นประกอบด้วยเงินฝาก China Construction Bank Corporation เงินฝาก Garanti Bank, ประเทศตุรกี ตราสารหนี้ ICBC (Asia) Ltd., ประเทศฮ่องกง และตราสารหนี้ Akbank T.A.S., ประเทศตุรกี รวมทั้งยังลงทุนในตราสารหนี้ BTG Investments LP ที่รับประกันโดย BTG Pactual Holding S.A., ประเทศบราซิล ด้านกองทุน KEFF1YN จะลงทุนในเงินฝาก Bank of China เงินฝากของ China Construction Bank Corporation ตราสารหนี้ Bank of East Asia และตราสารหนี้ BTG Investments LP ที่รับประกันโดย BTG Pactual Holding S.A., ประเทศบราซิล ด้วยเช่นเดียวกัน และยังลงทุนเพิ่มเติมในตราสารหนี้ Banco ABC Brasil S.A., ประเทศบราซิล
โดยตราสารที่กล่าวมามีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) และกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน ทั้งนี้ สำหรับกองทุน KFF6MBF ผู้ลงทุนสามารถลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท” นายนาวินกล่าว นายนาวินกล่าวต่อไปว่า สำหรับกองทุน KEFF3MN จะลงทุนส่วนใหญ่ในเงินฝากและตราสารหนี้ของประเทศตุรกี ได้แก่ Garanti Bank, Isbank และ Akbank T.A.S. ร่วมด้วยเงินฝาก China Construction Bank Corporation และยังลงทุนเพิ่มเติมในตราสารหนี้ประเทศไทย ของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ด้านตราสารหนี้ที่กองทุน KEFF6MR จะเข้าไปลงทุนในเบื้องต้นประกอบด้วยเงินฝาก China Construction Bank Corporation เงินฝาก Garanti Bank, ประเทศตุรกี ตราสารหนี้ ICBC (Asia) Ltd., ประเทศฮ่องกง และตราสารหนี้ Akbank T.A.S., ประเทศตุรกี รวมทั้งยังลงทุนในตราสารหนี้ BTG Investments LP ที่รับประกันโดย BTG Pactual Holding S.A., ประเทศบราซิล ด้านกองทุน KEFF1YN จะลงทุนในเงินฝาก Bank of China เงินฝากของ China Construction Bank Corporation ตราสารหนี้ Bank of East Asia และตราสารหนี้ BTG Investments LP ที่รับประกันโดย BTG Pactual Holding S.A., ประเทศบราซิล ด้วยเช่นเดียวกัน และยังลงทุนเพิ่มเติมในตราสารหนี้ Banco ABC Brasil S.A., ประเทศบราซิล
โดยทั้ง 3 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน และเป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีสินทรัพย์ในการลงทุนสูงและสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน โดยผู้ลงทุนต้องลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำ 1,000,000 บาท ผู้ที่สนใจลงทุนกับกองทุน KFF6MBF, กองทุน KEFF3MN, กองทุน KEFF6MR และกองทุน KEFF1YN สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับหนังสือชี้ชวนเสนอขายได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือสอบถาม KAsset Contact Center 0 2673 3888 หรือที่ www.kasikornasset.com
ที่มา : การเงินการธนาคาร.วันที่16 เมษายน 2557.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น