วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2557
กสิกรฯ ออกบัตรเมืองไทย รูดจ่ายเบี้ยรับเงินคืน 0.25%
กสิกรไทย ร่วมกับเมืองไทยประกันชีวิต ออกบัตรเมืองไทยสไมล์เครดิตการ์ด รับสิทธิพิเศษ รูดชำระค่าเบี้ยประกันภัยเมืองไทยฯ รับเงินคืนสูงสุด 0.25% ไม่จำกัดวงเงิน ตั้งเป้าบัตรเพิ่ม 2 แสนใบ ใน 3 ปี
นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)(KBANK)เปิดเผยว่า ธนาคารได้ร่วมกับบริษัทเมืองไทยประกันชีวิต ออกบัตรเมืองไทยสไมล์เครดิตการ์ด สำหรับสมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 800,000 คน โดยผู้ถือบัตรเมืองไทยสไมล์เครดิตการ์ดจะได้รับสิทธิพิเศษเมือชำระค่าเบี้ยประกันภัยของเมืองไทยประกันชีวิตผ่านบัตร จะได้รับเงินคืนสูงสุด 0.25% ของค่าเบี้ยประกันภัยที่ชำระ โดยไม่จำกัดจำนวนเงิน พร้อมวงเงินประกันภัยอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง 8-20 ล้านบาท
ทั้งนี้ บัตรเมืองไทยสไมล์เครดิตการ์ด จะมี 4 รูปแบบ คือ Smile, Platinum, Prestige และจะเป็นครั้งแรกที่มีการออกบัตรเครดิต Pink Gold ซึ่งเป็นบัตรระดับพรีเมียมที่รวมเอกสิทธิ์มากมาย โดยธนาคารตั้งเป้าออกบัตรดังกล่าวไว้ 200,000 ใบ ภายใน 3 ปี และมีมูลค่าการใช้จ่ายผ่านบัตร 9,000 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมบัตรเครดิตกสิกรไทย ปัจจุบันมีฐานบัตรรวมเกือบ 3.3 ล้านใบ มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเฉลี่ยสูงที่สุดในตลาด อยู่ที่ 17,300 บาทต่อบัตรต่อเดือน ด้านยอดใช้จ่ายสะสม ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2557 อยู่ที่ 119,000 ล้านบาท ครองอันดับ 1 ของตลาด ด้วยส่วนแบ่ง 21% ขณะที่เมื่อวิเคราะห์ยอดการใช้จ่ายพบว่า เป็นการชำระค่าเบี้ยประกันภัยมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ด้วยสัดส่วน 14% ของยอดใช้จ่ายทั้งหมด ทั้งนี้ ธนาคารตั้งเป้าหมายสิ้นปี 2557 จะขยายฐานบัตรเครดิตใหม่จำนวน 715,000 บัตร และมีฐานลูกค้าบัตรเครดิตรวม 3.6 ล้านบัตร เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2556 ราว 16% มียอดใช้จ่ายทั้งหมดผ่านบัตร อยู่ที่ 3.44 แสนล้านบาท ขยายตัวราว 31% รวมทั้งประมาณการยอดสินเชื่อคงค้างหลังปรับฐาน สิ้นปี 2557 จะอยู่ที่กว่า 72,000 ล้านบาท ขยายตัวในช่วง 11-12%
นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า บัตรเมืองไทยสไมล์เครดิตการ์ด เป็นความร่วมมือของบริษัท และธนาคารกสิกรไทย เพื่อฉลองครบรอบ 10 ปี เมืองไทยสไมล์คลับ ด้วยแนวคิด “บัตรประกันความประทับใจของคนหัวคิดทันสมัย”
โดยเฉพาะบัตรเมืองไทยสไมล์เครดิตการ์ด Pink Gold ได้รวบรวมสิทธิประโยชน์ระดับเอ็กซ์คลูซีฟ เช่น ความคุ้มครองประกันอุบัติเหตุการเดินทางวงเงินสูงสุด 20 ล้านบาท บริการให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินเมื่อเดินทางไปต่างประเทศตลอด 24 ชั่วโมง สิทธิในการใช้บริการห้องรับรองพิเศษ Royal Orchid Lounge ที่สนามบินสุวรรณภูมิ และต่างจังหวัด เมื่อเดินทางด้วยสายการบินไทย 2 ครั้งต่อปี เป็นต้น
ในโอกาสนี้ บริษัทยังได้จัดแคมเปญพิเศษเพื่อฉลองการเปิดโครงการใหม่ในช่วงแนะนำ 3 เดือนแรก ที่เปิดให้บริการแก่ลูกค้า คือ ตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้ โดยลูกค้าสามารถเลือกซื้อแบบประกันที่เข้าร่วมโครงการโดยชำระเบี้ยประกันภัยเพียงปีละ 300,000 บาท จะได้รับสิทธิในการสมัครบัตรเมืองไทยสไมล์เครดิตการ์ด ระดับ Pink Gold จากวงเงินปกติ 500,000 บาทต่อปี
ที่มา : โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์.17 มิถุนายน 2557 10:56 น.
http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9570000067836
กสิกรไทย ร่วมกับเมืองไทยประกันชีวิต ออกบัตรเมืองไทยสไมล์เครดิตการ์ด รับสิทธิพิเศษ รูดชำระค่าเบี้ยประกันภัยเมืองไทยฯ รับเงินคืนสูงสุด 0.25% ไม่จำกัดวงเงิน ตั้งเป้าบัตรเพิ่ม 2 แสนใบ ใน 3 ปี
นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)(KBANK)เปิดเผยว่า ธนาคารได้ร่วมกับบริษัทเมืองไทยประกันชีวิต ออกบัตรเมืองไทยสไมล์เครดิตการ์ด สำหรับสมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 800,000 คน โดยผู้ถือบัตรเมืองไทยสไมล์เครดิตการ์ดจะได้รับสิทธิพิเศษเมือชำระค่าเบี้ยประกันภัยของเมืองไทยประกันชีวิตผ่านบัตร จะได้รับเงินคืนสูงสุด 0.25% ของค่าเบี้ยประกันภัยที่ชำระ โดยไม่จำกัดจำนวนเงิน พร้อมวงเงินประกันภัยอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง 8-20 ล้านบาท
ทั้งนี้ บัตรเมืองไทยสไมล์เครดิตการ์ด จะมี 4 รูปแบบ คือ Smile, Platinum, Prestige และจะเป็นครั้งแรกที่มีการออกบัตรเครดิต Pink Gold ซึ่งเป็นบัตรระดับพรีเมียมที่รวมเอกสิทธิ์มากมาย โดยธนาคารตั้งเป้าออกบัตรดังกล่าวไว้ 200,000 ใบ ภายใน 3 ปี และมีมูลค่าการใช้จ่ายผ่านบัตร 9,000 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมบัตรเครดิตกสิกรไทย ปัจจุบันมีฐานบัตรรวมเกือบ 3.3 ล้านใบ มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเฉลี่ยสูงที่สุดในตลาด อยู่ที่ 17,300 บาทต่อบัตรต่อเดือน ด้านยอดใช้จ่ายสะสม ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2557 อยู่ที่ 119,000 ล้านบาท ครองอันดับ 1 ของตลาด ด้วยส่วนแบ่ง 21% ขณะที่เมื่อวิเคราะห์ยอดการใช้จ่ายพบว่า เป็นการชำระค่าเบี้ยประกันภัยมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ด้วยสัดส่วน 14% ของยอดใช้จ่ายทั้งหมด ทั้งนี้ ธนาคารตั้งเป้าหมายสิ้นปี 2557 จะขยายฐานบัตรเครดิตใหม่จำนวน 715,000 บัตร และมีฐานลูกค้าบัตรเครดิตรวม 3.6 ล้านบัตร เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2556 ราว 16% มียอดใช้จ่ายทั้งหมดผ่านบัตร อยู่ที่ 3.44 แสนล้านบาท ขยายตัวราว 31% รวมทั้งประมาณการยอดสินเชื่อคงค้างหลังปรับฐาน สิ้นปี 2557 จะอยู่ที่กว่า 72,000 ล้านบาท ขยายตัวในช่วง 11-12%
นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า บัตรเมืองไทยสไมล์เครดิตการ์ด เป็นความร่วมมือของบริษัท และธนาคารกสิกรไทย เพื่อฉลองครบรอบ 10 ปี เมืองไทยสไมล์คลับ ด้วยแนวคิด “บัตรประกันความประทับใจของคนหัวคิดทันสมัย”
โดยเฉพาะบัตรเมืองไทยสไมล์เครดิตการ์ด Pink Gold ได้รวบรวมสิทธิประโยชน์ระดับเอ็กซ์คลูซีฟ เช่น ความคุ้มครองประกันอุบัติเหตุการเดินทางวงเงินสูงสุด 20 ล้านบาท บริการให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินเมื่อเดินทางไปต่างประเทศตลอด 24 ชั่วโมง สิทธิในการใช้บริการห้องรับรองพิเศษ Royal Orchid Lounge ที่สนามบินสุวรรณภูมิ และต่างจังหวัด เมื่อเดินทางด้วยสายการบินไทย 2 ครั้งต่อปี เป็นต้น
ในโอกาสนี้ บริษัทยังได้จัดแคมเปญพิเศษเพื่อฉลองการเปิดโครงการใหม่ในช่วงแนะนำ 3 เดือนแรก ที่เปิดให้บริการแก่ลูกค้า คือ ตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้ โดยลูกค้าสามารถเลือกซื้อแบบประกันที่เข้าร่วมโครงการโดยชำระเบี้ยประกันภัยเพียงปีละ 300,000 บาท จะได้รับสิทธิในการสมัครบัตรเมืองไทยสไมล์เครดิตการ์ด ระดับ Pink Gold จากวงเงินปกติ 500,000 บาทต่อปี
ที่มา : โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์.17 มิถุนายน 2557 10:56 น.
http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9570000067836วันอังคารที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2557
กสิกรไทยออกกรมธรรม์ใหม่
“ซูเปอร์เซฟวิ่ง ออมทรัพย์รับเยอะ”
กสิกรไทยออกกรมธรรม์ใหม่ “ซูเปอร์เซฟวิ่ง ออมทรัพย์รับเยอะ” ประกันชีวิตควบออมทรัพย์ที่เงื่อนไขดีที่สุด เน้นเจาะลูกค้าระดับกลาง ชูผลตอบแทนสูงสุดถึง 3.5% จ่ายเบี้ยเพียง 5 ปี คุ้มครองนาน 10 ปี มีเงินจ่ายคืน 2% ทุกปี ครบสัญญาได้ผลประโยชน์รวมถึง 130% ลดหย่อนภาษีได้ตั้งเป้าขายปีนี้ 50,000กรมธรรม์ เผยเบี้ยประกันรวม 4 เดือนแรกโตถึง 34%
นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่าธนาคารกสิกรไทย ร่วมกับบริษัท เมืองไทยประกันชีวิตออกกรมธรรม์ประกันชีวิตใหม่ล่าสุด “ซูเปอร์เซฟวิ่ง ออมทรัพย์รับเยอะ” (Pro Saving 510) ซึ่งจะเป็นกรมธรรม์ประกันชีวิตควบการออมเงินที่เงื่อนไขดีที่สุด ด้วยจุดเด่นตรงใจลูกค้าที่จ่ายเบี้ยประกันต่ำ ผลประโยชน์สูงโดยลูกค้าจ่ายเบี้ยประกันเพียง 5 ปี ได้รับการคุ้มครองยาว 10 ปี ได้รับเงินจ่ายคืน 2% ตั้งแต่ปีที่ 1-9 และในปีที่ 10 จะได้รับเงินครบสัญญา 112% รวมรับผลประโยชน์สูงถึง 130% ทั้งนี้ผู้ทำสามารถนำเบี้ยประกันที่จ่ายไปลดหย่อนภาษีได้โดยจะรับประกันสำหรับผู้มีอายุตั้งแต่1 เดือนถึง 65 ปี ทุนประกันตั้งแต่ 100,000 - 1,000,000 บาท
ที่ผ่านมา ธนาคารกสิกรไทยได้ศึกษาความต้องการของกลุ่มลูกค้าบุคคลระดับกลาง (Middle Income Segment) ที่มีขนาดตลาดถึง 12 ล้านคน จึงเป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่ที่มีศักยภาพสูง พบว่าเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีความฝัน ต้องการประสบความสำเร็จในชีวิตตั้งแต่อายุน้อยต้องการความมั่นคง มีชีวิตที่สุขสบาย และเริ่มมองหาการออมการลงทุนดังนั้นการออกแบบกรมธรรม์ “ซูเปอร์เซฟวิ่ง ออมทรัพย์รับเยอะ”ให้เป็นการประกันชีวิตควบการออมทรัพย์ที่ชำระเบี้ยประกันต่ำกว่ากรมธรรม์ ลักษณะคล้ายกันในตลาด แต่ให้ผลตอบแทนที่ใกล้เคียงหรือสูงกว่า น่าจะได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้ารายได้ระดับกลาง เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่เพียงแค่ให้ความคุ้มครอง แต่ยังสามารถเป็นตัวเลือกในการออมได้อย่างดีอีกด้วย โดยธนาคารตั้งเป้าการขายในปีนี้ไว้ที่ 50,000 กรมธรรม์
สำหรับผลการดำเนินงานของ K-Bancassurance ธนาคารกสิกรไทยในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2557 มีเบี้ยประกันรับใหม่ทั้งสิ้นกว่า 8,600 ล้านบาท โตขึ้น 34% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และมีเบี้ยประกันรับรวมกว่า 16,500 ล้านบาท เติบโตที่ประมาณ 30% สำหรับภาพรวมธุรกิจประกัน ทั้งธุรกิจประกันชีวิตและประกันวินาศภัยที่ผ่านมา ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่ค่อนข้างผันผวน ซึ่งอัตราการเติบโตในภาพรวมในปีนี้จะชะลอตัวจากปีที่แล้วเล็กน้อย โดยธุรกิจประกันชีวิตมีอัตราเติบโตประมาณ 12% และประกันวินาศภัยเติบโตประมาณ 10%
ด้านตัวเลขภาพรวมธุรกิจประกันชีวิตทั้งตลาดจากสมาคมประกันชีวิตไทยพบว่า ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมีเบี้ยประกันชีวิตรับใหม่รวมทุกช่องทางประมาณ 50,000 ล้านบาท เติบโต 32% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และมีเบี้ยประกันรับรวมทั้งหมดกว่า 135,000 ล้านบาท เติบโต 23%ส่วนภาพรวมตลาดBancassurance ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมามีเบี้ยประกันรับใหม่กว่า 32,800 ล้านบาทเติบโต 45% และมีเบี้ยประกันรับรวมกว่า 65,000 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 43%จะเห็นได้ว่าช่องทางBancassurance เป็นช่องทางที่มีส่วนช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจประกันชีวิตในภาพรวมเติบโตมากขึ้นจากปีก่อน
นายปกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ธนาคารกสิกรไทยในฐานะผู้นำในธุรกิจ Bancassurance มีนโยบายที่จะเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยมุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงใจลูกค้าในทุกกลุ่มลูกค้าผ่านสาขาของธนาคารด้วยบริการที่ยอดเยี่ยม (Best Product with Excellent Service) และสร้างความแตกต่างด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ควบคู่กับบริการให้คำปรึกษา (K-Expert) ด้วยการศึกษาถึงความต้องการของกลุ่มลูกค้าอย่างลึกซึ้งเพื่อให้เข้าใจถึงความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและเพื่อให้มั่นใจว่าจะส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่เหมาะสมที่สุดและตรงใจที่สุดให้กับลูกค้า
ที่มา : กระแสหุ้นออนไลน์ .วันอังคารที่ ๑๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๗ ๑๙.๑๗ น
http://www.stockwave.in.th/hot-news/37981-2014-06-10-12-18-21.html
http://www.stockwave.in.th/hot-news/37981-2014-06-10-12-18-21.html
วันพุธที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2557
กสิกรไทยส่งนวัตกรรมใหม่ บัตรเครดิตเพย์เวฟสติ๊กเกอร์
ใบแรกของไทย จ่ายง่ายแค่แตะไม่ต้องเซ็น
ตั้งเป้าออก 2 แสนใบ ภายใน 57
กสิกรไทยผุดนวัตกรรมใหม่ บัตรเครดิตเพย์เวฟสติ๊กเกอร์ พกง่ายจ่ายไว แค่แตะไม่ต้องเซ็นชื่อ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ พร้อมรองรับการขยายตัวของ Micro Payment ตั้งเป้ายอดผู้ใช้งาน 2 แสนบัตร พร้อมขยายสู่กลุ่มคมนาคมให้รองรับการใช้งาน ทางด่วน บีทีเอส รถไฟใต้ดิน ภายในปี 58
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มการชำระเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการชำระเงินที่มียอดชำระต่อครั้งที่ต่ำ หรือ Micro Payment ซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่นิยมความสะดวก รวดเร็ว และความต้องการถือเงินสดลดลง
ธนาคารกสิกรไทยผู้นำด้านดิจิตอลแบงกิ้ง และครองอันดันดับ 1 ในธุรกิจบัตรเครดิตกลุ่ม VISA payWave ด้วยยอดผู้ถือบัตรมากที่สุดในตลาด จึงเตรียมเปิดตัว บัตรเครดิต NFC Sticker กสิกรไทย (K-Wave NFC Sticker Credit Card) พัฒนาต่อยอดบัตรเครดิตประเภท K-Wave ที่ใช้เทคโนโลยี NFC (Near Field Communication) ในรูปแบบสติ๊กเกอร์เป็นบัตรแรกในไทย สามารถติดบนโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์อื่นๆ จึงพกพาสะดวกพร้อมใช้งาน ช่วยลดการถือเงินสด ชำระเงินง่ายโดยการแตะหน้าบัตรบนเครื่องชำระเงิน โดยไม่ต้องเซ็นชื่อกำกับ ณ ร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ VISA payWave ทั่วโลก
นอกจากนี้ ในด้านความปลอดภัย ผู้ถือบัตรเครดิต NFC Sticker กสิกรไทย (K-Wave NFC Sticker Credit Card) สามารถกำหนดวงเงินของบัตรได้เองตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป และใช้จ่ายผ่านบัตรโดยไม่ต้องมีลายเซ็นได้สูงสุด 1,500 บาทต่อรายการ สำหรับการชำระเงิน ต้องแตะบัตรกับเครื่องอ่านบัตรในระยะห่างไม่เกิน 10 ซม. ดังนั้น โอกาสที่จะเกิดการชำระเงินผ่านบัตรโดยไม่ได้ตั้งใจมีน้อยมาก และบัตรนี้ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจาก VISA โดยมี Chip มาตรฐาน EMV อยู่ภายในเพื่อป้องกันการคัดลอกข้อมูล ทั้งนี้ ผู้สมัครบัตรเครดิต NFC Sticker กสิกรไทย จะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปีสำหรับปีแรก รวมทั้งสามารถสะสมคะแนนจากการใช้จ่ายเช่นเดียวกับบัตรเครดิตทั่วไปอีกด้วย
ธนาคารกสิกรไทย ตั้งเป้าหมายการออกบัตรเครดิต NFC Sticker กสิกรไทย (K-Wave NFC Sticker Credit Card) และ K-Wave Credit Card จำนวน 200,000 บัตร โดยมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรทั้งสิ้น 2,700 ล้านบาท ในปี 2557 พร้อมตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนร้านค้ารับบัตรกลุ่ม K-Wave จากปัจจุบันในตลาดที่มีกว่า 5,000 เครื่อง โดยเป็นของธนาคารกสิกรไทยจำนวน 3,500 เครื่องภายในสิ้นเดือนมิถุนายน 2557 และคาดว่าในตลาดจะเพิ่มเป็นเป็น 10,000 ร้านค้าทั่วประเทศภายในปี 2557 โดยเน้นธุรกิจที่มีการชำระเงินรายย่อยสูง และธนาคารกสิกรไทย กำลังดำเนินการพัฒนาต่อยอดการใช้งานบัตรเครดิต NFC Sticker กสิกรไทย (K-Wave NFC Sticker Credit Card) ให้สามารถใช้ชำระเงินในกลุ่มคมนาคมขนส่งต่าง ๆ อาทิ ค่าทางด่วน, รถไฟฟฟ้า BTS และรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2558
นายชาติชาย กล่าวว่า การพัฒนาบัตรเครดิต NFC Sticker กสิกรไทย (K-Wave NFC Sticker Credit Card) สะท้อนความเป็นผู้นำด้านดิจิตอลแบงกิ้งของธนาคารกสิกรไทย ในการนำนวัตกรรมบริการใหม่มารองรับการขยายตัวของการชำระเงินรายย่อยที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งนอกจากผู้ใช้บัตรจะได้รับความสะดวกด้วยขั้นตอนชำระเงินที่รวดเร็วขึ้น และช่วยให้ร้านค้ามีขั้นตอนการรับชำระค่าสินค้าที่กระชับขึ้น โดยเฉพาะร้านจำหน่ายสินค้าและบริการที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว จำนวนเงินธุรกรรมไม่สูงมาก เช่น ร้านอาหาร เครื่องดื่ม มินิมาร์ท โรงภาพยนตร์ นอกจากนี้ บริการดังกล่าวยังสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐที่ต้องการลดการใช้เงินสดลง เพื่อช่วยลดภาระในการผลิตธนบัตรของธนาคารแห่งประเทศไทย และลดความเสี่ยงให้แก่ประชาชนในการทำเงินสดสูญหายหรืออันตรายจากมิจฉาชีพ
ปัจจุบันในประเทศไทยมีบัตรเครดิต ที่ใช้เทคโนโลยี NFC (Near Field Communication) ในตลาด ทั้งบัตรที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์และบริษัทต่าง ๆ จำนวนรวมประมาณ 100,000 บัตร สำหรับธนาคารกสิกรไทย ปัจจุบันมีบัตร K-Wave Credit Card ทั้งสิ้น 80,000 บัตร โดยคาดว่า ณ สิ้นปีในตลาดจะมีบัตรเครดิตที่ใช้เทคโนโลยี NFC ประมาณ 300,000 บัตร
ด้านภาพรวมตลาดสินเชื่อบัตรเครดิต พบว่า NPL ของทั้งตลาด ณ สิ้นสุดไตรมาส 1 ปี 2557 อยู่ที่ 2.72% ขณะที่ NPL สินเชื่อบัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย ในช่วงเวลาเดียวกัน อยู่ที่ 1.72% ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าตลาด ทั้งนี้ เป้าหมายสิ้นปี 2557 ของธนาคารฯ จะขยายฐานบัตรเครดิตใหม่จำนวน 715,000 บัตร และมีฐานลูกค้าบัตรเครดิตรวม 3.6 ล้านบัตร เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2556 ราว 16% มียอดใช้จ่ายทั้งหมดผ่านบัตร อยู่ที่ 3.44 แสนล้านบาท ขยายตัว ราว 31% รวมทั้งประมาณการยอดสินเชื่อคงค้างหลังปรับฐาน สิ้นปี 2557 จะอยู่ที่กว่า 72,000 ล้านบาท ขยายตัวในช่วง 11-12%
ที่มา : ข่าวประชาสัมพันธ์หุ้น การเงิน การธนาคาร วันพุธที่ ๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๗ ๑๑:๑๐ น.
วันอังคารที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2557
บริการ K-Expert MyPort
บริการสินทรัพย์ฉบับออนไลน์
ที่มา : นิตยาสารการเงินการธนาคาร.Bank Of The Year 2014.ประจำเดือน เมษายน พ.ศ.2557.ฉบับที่ 384.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น