วันเสาร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2557


ตลาดหุ้นรับข่าวทั้งลบและบวก แต่ดัชนีหุ้นยังบวก 

เหตุแรงซื้อจากต่างชาติลดการติดลบ 

โบรกเกอร์ยังเชียร์หุ้นกลุ่มธนาคารไปต่อ





     ภาพรวมของตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ (23 เม.ย.)ไม่ได้รับผลกระทบด้านลบต่อการคงอัตราดอกเบี้ยของ กนง. ด้านปัจจัยการเมืองลดความร้อนแรงด้วยศาลรัฐธรรมนูญขยายเวลาการชี้แจงข้อกล่าวหาของนายกรัฐมนตรีออกไปอีก 15 วัน แต่โอกาสที่พรรค ประชาธิปัตย์จะประกาศไม่เข้าร่วมการเลือกตั้งอีกครั้ง หากการ กกต. และรัฐบาล มีการกำหนดวันเลือกตั้งชัดเจน หลังวันที่30 เม.ย. 2557 แล้วก็ตาม แต่โบรกเกอร์อาทิ นายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้(24 เม.ย.)ยังคงปรับตัวขึ้น ด้วยโมเมนตัมของตลาดที่ยังเป็นบวกอยู่ โดยแรงซื้อของเม็ดเงินต่างชาติยังไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ ลดการติดลบ(Downside) ผลักดันให้ตลาดปรับขึ้นไปต่อได้
     อย่างไรก็ดี เมื่อตลาดฯปรับตัวขึ้นไปในระหว่างการซื้อขายก็อาจจะมีแรงขายทำกำไรออกมาได้บ้าง ซึ่งเท่าที่ดูนักลงทุนรายย่อยเองก็มีการขายออกมาด้วยน่าจะเป็นเหตุผลในการเทรดของแต่ละคนส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้มีความเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปลายเดือนนี้ พร้อมให้แนวรับ (ดัชนีต่ำสุด)1,416-1,400 จุด ส่วนแนวต้าน(ดัชนีสุงสุด) 1,430-1,442 จุด
     หุ้นกลุ่มแบงก์ คงเป็นหุ้นกลุ่มที่น่ามองน่าติดตามต่อไปได้อีก ด้วยผลประกอบการที่โชว์ออกมาในไตรมาส 1 ปี 2557 ซึ่งมีผลของกำไรที่โตได้ดี เช่น ธนาคารกรุงเทพ (BBL) มีกำไรสุทธิ 8,965 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.6% จากไตรมาส 4 ปี 2556 ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มีกำไรสุทธิ 11,939 ล้านบาท  เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน หรือ 25.32%ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) มีกำไรสุทธิ 3,270 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 223.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2556
     ธนาคารทหารไทย (TMB) มีกำไรสุทธิ 1,602 ล้านบาท ลดลง 12% จากไตรมาส 1 ปี 2556 บริษัททุนธนชาต (TCAP) มีกำไรสุทธิ 1,320 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2556 ธนาคารเกียรตินาคิน( KKP) มีกำไรสุทธิ 700.23 ล้านบาท ลดลง 39.8% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2556, ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) มีกำไรสุทธิ 440.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปี 2556 รวม 10 แห่งมีกำไรสุทธิ 42,526.93 ล้านบาท เป็นต้น


ที่มา : MThai News.http://news.mthai.com/hot-news/324351.html.


บิลค่าไฟเกินกำหนด จ่ายได้แล้วที่ธนาคารกสิกรไทย




       นางนพวรรณ เจิมหรรษา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย และนายมนตรี พานิชกิจ ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ร่วมเปิดตัวบริการรับชำระค่าไฟฟ้าเกินกำหนด เพิ่มความสะดวกและประหยัดเวลาเดินทางให้แก่ลูกค้าในกรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ สามารถชำระค่าไฟฟ้าที่เกินกำหนดชำระผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่ ตู้ K-ATM K-Cyber Banking (บริการธนาคารทางอินเทอร์เน็ตกสิกรไทย) และ K-Mobile Banking Plus (บริการธนาคารทางโทรศัพท์มือถือกสิกรไทย) ณ ธนาคารกสิกรไทย อาคารราษฎร์บูรณะ เมื่อเร็วๆ นี้


ที่มา : ข่าวประชาสัมพันธ์หุ้น การเงิน การธนาคาร วันพฤหัสบดีที่ ๒๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๗ ๑๗:๓๐ น.

ฟิทช์ให้อันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ

ของธนาคารกสิกรไทยที่ BBB+



     ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศให้อันดับเครดิตแก่หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของธนาคารกสิกรไทย (จำกัด) มหาชน หรือ KBank (อันดับเครดิต ‘BBB+’/ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) ที่ ‘BBB+’ หุ้นกู้ดังกล่าวมีมูลค่า 350 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีวันครบกำหนดชำระในเดือนตุลาคม 2562 โดยหุ้นกู้ดังกล่าวจะออกภายใต้โครงการหุ้นกู้ euro medium term note (EMTN) ซึ่งมีมูลค่าโครงการรวม 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และจะออกโดย KBank สาขาหมู่เกาะเคย์แมน
การประกาศให้อันดับเครดิตครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการที่ธนาคารได้ทำการออกหุ้นกู้และฟิทช์ได้รับเอกสารฉบับสมบูรณ์ซึ่งมีข้อมูลตรงตามที่ได้รับมาก่อนหน้า อันดับเครดิตที่ประกาศนี้เป็นอันดับเครดิตระดับเดียวกับที่ฟิทช์คาดว่าจะให้แก่หุ้นกู้ดังกล่าวตามที่ได้ประกาศไปเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2557

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต

      อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิอยู่ที่ระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Foreign Currency Issuer Default Rating) ของ KBank ที่ ‘BBB+’ เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของธนาคาร
อันดับเครดิตของ KBank สะท้อนถึงเครือข่ายธุรกิจ (franchise) ในประเทศที่แข็งแกร่งของธนาคาร คุณภาพสินทรัพย์ที่ปรับตัวแข็งแกร่งขึ้น เสถียรภาพในด้านการระดมทุน (funding) และสภาพคล่อง รวมทั้งฐานะเงินกองทุนที่อยู่ในระดับดีและความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่ง

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

    อันดับเครดิตของของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกันกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ KBank
     อันดับเครดิตของประเทศไทยที่สูงขึ้น สภาวะแวดล้อมในการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้น รวมทั้งการปรับตัวแข็งแกร่งขึ้นของสถานะทางการเงินของธนาคารโดยรวมน่าจะเป็นปัจจัยบวกต่ออับดับเครดิตของ KBank อย่างไรก็ตามการปรับเพิ่มอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (หรือ Viability Rating) ในปัจจุบันมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้น้อย
   การปรับลดอันดับเครดิตอาจเกิดจากการเพิ่มขึ้นของความเสี่ยงในด้านคุณภาพสินทรัพย์อย่างมีนัยสำคัญ ที่อาจส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรหรือเงินกองทุนลดลง ตัวอย่างของเหตุการณ์ดังกล่าวอาจรวมถึง การเพิ่มระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้จากการมีระดับการกระจุกตัวของสินเชื่อเพิ่มขึ้น และ/หรือ การเติบโตของสินเชื่อในระดับที่สูงเกินไป โดยความสามารถในการรองรับความเสี่ยงไม่ได้มีการปรับตัวแข็งแกร่งขึ้น ทั้งนี้ความสามารถในการรองรับความเสี่ยงอาจสะท้อนจากผลการดำเนินงานหรือเงินกองทุนที่แข็งแกร่งขึ้น

อันดับเครดิตของ KBank ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการประกาศอันดับเครดิตในครั้งนี้ มีดังนี้:

  • อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวที่ ‘BBB+’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
  • อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นที่ ‘F2’
  • อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินที่ ‘bbb+’
  • อันดับเครดิตสนับสนุนที่ ‘2’
  • อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำที่ ‘BBB-’
  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ ‘AA(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ ‘F1+(tha)’
  • อันดับเครดิตโครงการหุ้นกู้ EMTN มูลค่ารวม 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่ ‘BBB+’
  • อันดับเครดิตสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันที่ ‘BBB+’
  • อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ระยะสั้น ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันที่ ‘F1+(tha)’
  • อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิ (หุ้นกู้ที่สามารถนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามเกณฑ์ Basel II) ที่ ‘AA-(tha)’


ที่มา : ข่าวประชาสัมพันธ์หุ้น การเงิน การธนาคาร วันพุธที่ ๒๓ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๗ ๑๖:๐๓ น.




KBANK ตั้งเป้า AUM ลูกค้ากลุ่มสินทรัพย์สูง

ในปี 57 เพิ่มราว 8%


       นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ ผู้บริหารกลุ่มธุรกิจบริการไพรเวทแบงค์ ธนาคารกสิกรไทย(KBANK) เปิดเผยว่า ธนาคารมีลูกค้ากลุ่มสินทรัพย์สูง ประมาณ 7,600 ราย คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดประมาณ 35% ของจำนวนลูกค้าทั้งหมดในประเทศไทยมีอยู่ประมาณ 21,400 ราย และมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) รวมประมาณ 5.7 แสนล้านบาท ซึ่งมีแนวโน้มการขยายตัวต่อเนื่องตามการเติบโตของภาวะเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัดที่เศรษฐกิจมีการเติบโตสูงกว่าอัตราเฉลี่ยของประเทศ คาดปีนี้จะสามารถเพิ่มลูกค้ากลุ่มสินทรัพย์สูงอีก 8% คิดเป็น AUM เพิ่มประมาณ 50,000 ล้านบาท
      ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าสินทรัพย์สูง (High Net Worth Segment) ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีสินทรัพย์กับธนาคารและบริษัทของธนาคารมากกว่า 50 ล้านบาทขึ้นไป ให้ความสนใจในออมและลงทุนที่หลากหลายและเพิ่มการลงทุนในต่างประเทศเพื่อเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนมากขึ้นเนื่องจากผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ยของสถาบันการเงินไทยอยู่ในระดับที่ต่ำมาก และสภาพเศรษฐกิจของไทยในปีนี้จะไม่เติบโตมากนัก
    ดังนั้น บริการไพรเวทแบงค์ จึงได้นำโครงสร้างการขายแบบเปิด (Open Architecture) มาให้บริการกลุ่มลูกค้าสินทรัพย์สูง เพื่อให้คำแนะนำและนำเสนอผลิตภัณฑ์ในการลงทุนที่ดีที่สุดในตลาด มีความหลากหลายสอดคล้องกับความต้องการและให้ผลประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้าโดยลูกค้าสามารถเลือกลงทุนในกองทุนที่น่าสนใจของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ชั้นนำแห่งอื่น นอกเหนือจากการเลือกลงทุนกับ บลจ.ในเครือของธนาคารกสิกรไทยได้
    ช่วงเริ่มต้น ธนาคารได้เลือกบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน 2 แห่งที่มีผลประกอบการอันดับต้น ๆ ของไทยมาร่วมให้บริการแก่ลูกค้าสินทรัพย์สูง ได้แก่ บลจ.อเบอร์ดีน และ บลจ.แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) โดยทั้ง 2 บลจ. เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญในการจัดการกองทุนที่ลงทุนในตลาดทั้งในและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นตลาดเอเชียหรือยุโรป ซึ่งทำให้ลูกค้ามีทางเลือกในการลงทุนกับกองทุนต่าง ๆ ได้มากถึง 90 กองทุน และในเร็ว ๆ นี้ จะเพิ่มความร่วมมือกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนอีก 3 แห่ง เพื่อเพิ่มทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลายและดีที่สุดในตลาดให้กับลูกค้าไพรเวทแบงค์ของธนาคาร
     นายจิรวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กิจกรรมที่ KBank Private Banking จะจัดให้กับลูกค้าในปี 57 นี้เพิ่มเติม คือ การจัดกิจกรรมเสริมสร้างองค์ความรู้ให้กับลูกค้าอย่างเข้มข้นในทุกไตรมาส ทั้งด้านการเงินและการลงทุน รวมถึงการวิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจและคำแนะนำการลงทุนในช่วงเวลาต่างๆ ผ่านความร่วมมือของพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกันไป นอกเหนือจากงานสัมมนาเชิงวิชาการเรื่องการลงทุนแล้ว กิจกรรมที่ตอบโจทย์ด้านไลฟ์สไตล์ของลูกค้าก็ยังคงมีจัดอย่างเข้มข้นเน้นออกแบบกิจกรรมให้ตรงความต้องการและตรงกับความสนใจของลูกค้ามากขึ้น


ที่มา : ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 21 เมษายน 2557 15:24:06 น.

วันอังคารที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2557


กสิกรไทยจัดสัมมนาออนไลน์เอสเอ็มอีทั่วประเทศ





ที่มา : นิตยาสารการเงินการธนาคาร.Bank Of The Year 2014.ประจำเดือน เมษายน พ.ศ.2557.ฉบับที่ 384.

บริการ K-Expert MyPort

บริการสินทรัพย์ฉบับออนไลน์




ที่มา : นิตยาสารการเงินการธนาคาร.Bank Of The Year 2014.ประจำเดือน เมษายน พ.ศ.2557.ฉบับที่ 384.

บุกเดี่ยวปล้นแบงก์กสิกร สาขาชันสูตร กวาดเงินกว่า 4 แสน


         วันนี้ (22 เม.ย.) เกิดเหตุคนร้ายบุกเดี่ยวปล้นเงินธนาคารกสิกรไทย สาขาชันสูตร อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี ซึ่งคนร้ายอาศัยช่วงเวลาที่ลูกค้ามารับบริการยังไม่มาก ทำการบุกปล้นเดี่ยว ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3 นาที คนร้ายสามารถรวบเงินที่เคาน์เตอร์ได้จำนวน 433,000 บาท จากนั้นรีบวิ่งออกหน้าประตูธนาคารไป
          ด้านผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า คนร้ายมา 1 คน สวมหมวกกันน็อก สวมเสื้อสก๊อตแขนยาว และกางเกงยีนส์พร้อมสะพายกระเป๋า แล้วชักปืนพกออกบอกให้พนักงานทุกคนหยุด คนร้ายจึงรีบวิ่งไปที่เคาน์เตอร์ และกวาดรวบเงินบริเวณเคาน์เตอร์ได้จำนวน 433,000 บาท และรีบวิ่งออกจากธนาคารไปขึ้นมอเตอร์ไซค์สีแดง ยี่ห้อฮอนด้าไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนีไป

          ด้าน พล.ต.ต.โกศล บัวประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สิงห์บุรี กล่าวว่า จากการปฏิบัติการของคนร้ายในครั้งนี้ เชื่อว่าคนร้ายได้มีการมาดูลาดเลาไว้ก่อนแล้ว


ที่มา : ASTVผู้จัดการออนไลน์ .22 เมษายน 2557 14:13 น.



กสิกรไทยมุ่งดูแลพอร์ตลูกค้าสินทรัพย์สูง 

จัดโครงสร้างแบบใหม่

เพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้าเป็นหลัก



          กสิกรไทยแจงกลยุทธ์ดูแลกลุ่มลูกค้าสินทรัพย์สูง ด้วยการให้บริการตามโครงสร้างการขายแบบเปิด (Open Architecture) จัดหาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด โดยยึดความต้องการและผลประโยชน์สูงสุดของลูกค้าเป็นหลัก พร้อมคัดสอง บลจ.อเบอร์ดีน และ แมนูไลฟ์ เป็นพันธมิตรเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่เสนอลูกค้าให้ครบวงจรมากขึ้น พร้อมแผนสร้างพันธมิตรกับผู้นำในตลาดอีกหลายรายในอนาคตอันใกล้ คาดปีนี้จะสามารถเพิ่มลูกค้ากลุ่มสินทรัพย์สูงอีก 8% คิดเป็นมูลค่าสินทรัพย์ประมาณ 50,000 ล้านบาท
             นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ ผู้บริหารกลุ่มธุรกิจบริการไพรเวทแบงค์ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่าปัจจุบันกลุ่มลูกค้าสินทรัพย์สูง (High Net Worth Segment) ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีสินทรัพย์กับธนาคารกสิกรไทย และบริษัทของธนาคารกสิกรไทยมากกว่า 50 ล้านบาทขึ้นไป ให้ความสนใจในออมและลงทุนที่หลากหลายและเพิ่มการลงทุนในต่างประเทศเพื่อเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนมากขึ้น เนื่องจากผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ยของสถาบันการเงินไทยอยู่ในระดับที่ต่ำมาก และสภาพเศรษฐกิจของไทยในปีนี้จะไม่เติบโตมากนัก
               ดังนั้นบริการไพรเวทแบงค์ ธนาคารกสิกรไทย จึงได้นำโครงสร้างการขายแบบเปิด (Open Architecture) มาให้บริการกลุ่มลูกค้าสินทรัพย์สูง เพื่อให้คำแนะนำและนำเสนอผลิตภัณฑ์ในการลงทุนที่ดีที่สุดในตลาด มีความหลากหลาย สอดคล้องกับความต้องการ และให้ผลประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้า โดยลูกค้าสามารถเลือกลงทุนในกองทุนที่น่าสนใจของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ชั้นนำแห่งอื่น นอกเหนือจากการเลือกลงทุนกับ บลจ.ในเครือของธนาคารกสิกรไทยได้
               ในช่วงเริ่มต้น ธนาคารได้เลือกบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน 2 แห่งที่มีผลประกอบการอันดับต้น ๆ ของไทยมาร่วมให้บริการแก่ลูกค้าสินทรัพย์สูง ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อเบอร์ดีน และ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) โดยทั้ง 2 บลจ. เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญในการจัดการกองทุนที่ลงทุนในตลาดทั้งในและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นตลาดเอเชียหรือยุโรป ซึ่งทำให้ลูกค้ามีทางเลือกในการลงทุนกับกองทุนต่าง ๆ ได้มากถึง 90 กองทุน และในเร็ว ๆ นี้ จะเพิ่มความร่วมมือกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนอีก 3 แห่ง เพื่อเพิ่มทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลายและดีที่สุดในตลาด ให้กับลูกค้าไพรเวทแบงค์ของธนาคาร
                นายจิรวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกิจกรรมที่ KBank Private Banking จะจัดให้กับลูกค้าในปี 2557 นี้เพิ่มเติม คือ การจัดกิจกรรมเสริมสร้างองค์ความรู้ให้กับลูกค้าอย่างเข้มข้นในทุกไตรมาส ทั้งด้านการเงินและการลงทุน รวมถึงการวิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจและคำแนะนำการลงทุนในช่วงเวลาต่างๆผ่านความร่วมมือของพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกันไป นอกเหนือจากงานสัมมนาเชิงวิชาการเรื่องการลงทุนแล้ว กิจกรรมที่ตอบโจทย์ด้านไลฟ์สไตล์ของลูกค้าก็ยังคงมีจัดอย่างเข้มข้นเน้นออกแบบกิจกรรมให้ตรงความต้องการและตรงกับความสนใจของลูกค้ามากขึ้น
               ปัจจุบัน ธนาคารกสิกรไทยมีลูกค้ากลุ่มสินทรัพย์สูง ประมาณ 7,600 ราย คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดประมาณ 35% ของจำนวนลูกค้าทั้งหมดในประเทศไทยมีอยู่ประมาณ 21,400 ราย และมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) รวมประมาณ 5.7 แสนล้านบาท ซึ่งมีแนวโน้มการขยายตัวต่อเนื่องตามการเติบโตของภาวะเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัดที่เศรษฐกิจมีการเติบโตสูงกว่าอัตราเฉลี่ยของประเทศ คาดปีนี้จะสามารถเพิ่มลูกค้ากลุ่มสินทรัพย์สูงอีก 8% คิดเป็น AUM เพิ่มประมาณ 50,000 ล้านบาท


กสิกรไทยจับมือโรบินสัน เปิดตัวบัตรกดเงินสดร่วมใบแรกในไทย



        นายชาติชาย พยุหนาวีชัย รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย และดร.ธรรม์ จิราธิวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายการตลาด ห้างสรรพสินค้าโรบินสันเปิดตัวบัตรกดเงินสด Robinson-KBank Express Cash บัตรกดเงินสดร่วมใบแรกในไทยให้วงเงินสินเชื่อสูงสุด 1.5 ล้านบาทพร้อมรับคูปองส่วนลดสินค้าแบรนด์ดังในห้างโรบินสันสูงสุด 30% โดยตั้งเป้าออกบัตรในปีนี้ 15,000 ใบ ผู้สนใจสามารถสมัครใช้บริการได้ตั้งแต่วันนี้ที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสันและธนาคารกสิกรไทยทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ K-Contact Center0 2888 8888 กด 04


CARMAX SUMMER SALE ที่สุดของราคาพิเศษ 

ลดกระหน่ำ!! ขนรถพวงมาลัยซ้ายสายพันธุ์มะกัน 

กับที่สุดของรถหรู




         ลดกระหน่ำ!! กับที่สุดของรถหรูราคาพิเศษ!! ภายในงาน “CARMAX SUMMER SALE ที่สุดของราคาพิเศษ” โดย คาร์แมกซ์พระราม9 ยกขบวนกองทัพรถหรูมากกว่า 30 รุ่น หั่นราคาสุดๆ พร้อมจัดโปรโมชั่น ร่วมกับ ธนาคารกสิกรไทย ผ่อนดาวน์ 0% นานสูงสุด 10 เดือน และรับ Cash Back 5% หรือ รับส่วนลดเป็นแสน!! หากซื้อด้วยเงินสด โปรโมชั่นสุดพิเศษเพื่อคนรักซูเปอร์คาร์ได้เลือกช็อปอย่างจุใจ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ภายในงาน “CARMAX SUMMER SALE ที่สุดของราคาพิเศษ” ณ ลานน้ำพุ เมกะบางนา ตั้งแต่วันที่ 16-22 เมษายน 2557 และเพื่อตอบรับกระแสพวงมาลัยซ้าย ตอนนี้ทำราคาพิเศษเฉพาะงานนี้เท่านั้นคือ Face Lift CAMARO 2LT และ Challenger Rallye Redline ในราคาพิเศษเพียง 3,990,000 บาท และ Mustang GT Premium Convertible ในราคาเพียง 4,990,000 บาทเท่านั้น นอกจากนี้ยังพบกับรถใหม่ล่าสุด ในราคาพิเศษสุด ๆ คือ BMW420d Coupe ,Nissan Elgrand Facelift ,Audi A8 Facelift ,CLA180 และกับรถอีกหลากรุ่นมากมาย  รับรถทันที ไม่ต้องรอ พบกันที่ ลานน้ำพุ ห้างเมกะบางนา ตั้งแต่วันที่ 16-22 เมษายน2557 งานนี้ เถ้าแก่ชัช ให้ส่วนลดกระหน่ำ ราคาพิเศษเฉพาะลูกค้าที่งานเท่านั้น สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02-319-1111


วันจันทร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2557

บัตรเครดิตกสิกรไทย! ร่วมมือกับ คริสตัล ดีไซน์ 

เซ็นเตอร์ (ซีดีซี) จัดโปรโมชั่น ลุ้นโชคใหญ่ 

บินลัดฟ้าสู่โตเกียว เอาใจลูกค้าผู้ถือบัตร




         นายชาติชาย พยุหนาวีชัย รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (ที่5จากซ้าย) และนางสาว สุดฤทัย ทองสอง     ผู้อำนวยการ ฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์และการตลาดบัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย (ที่6จากซ้าย) ร่วมกับนางศุภานวิต เอี่ยมสกุลรัตน์ กรรมการบริหาร บริษัท เค อี แลนด์ จำกัด (ที่3จากซ้าย) นาย กวีพันธ์ เอี่ยมสกุลรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.อี.แลนด์ จำกัด (ที่4จากซ้าย) นายสมเกียรติ วิทยาศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ (ที่2จากซ้าย) เปิดตัวโปรโมชั่น”CDC & THE CRYSTAL SUMMER PARADISE” ช็อปลุ้นโชครับสิทธิพิเศษ 3 ต่อ และรับส่วนลดสูงสุด 30% บัตรกำนัลสตาร์บัคส์ 100 บาท เมื่อช้อปครบ 1,500 บาทขึ้นไป พร้อมรับคูปองชิงโชค เมื่อช้อปด้วยบัตรเครดิตกสิกรไทยครบทุก 1,000 บาท ลุ้นบินลัดฟ้าสู่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม K-Contact Center โทร 02-888-8888 กด*8