กิจกรรมระหว่างเรียน

การตลาดของธนาคาร

ธนาคารกสิกรไทยและบริษัทของธนาคารกสิกรไทยยังคงสานต่อยุทธศาสตร์ที่ยึดมั่นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง(Customer Centricity) จึงมุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจทั้งในมิติของกลุ่มลูกค้า กลุ่มผลิตภัณฑ์ และช่องทางหลักในการให้บริการลูกค้าให้สนับสนุนโอกาสการขยายธุรกิจของธุรกิจลูกค้าตลอดจนความต้องการบริการทางการเงินอย่างครบวงจรซึ่งจะทำให้ธนาคารสามารถบรรลุเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ดังกล่าว โดยที่ยังคงรักษาคุณภาพของพอร์ตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ธนาคารกสิกรไทยแบ่งธุรกิจลูกค้าออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

1.    ธุรกิจลูกค้าบรรษัท
2.    ธุรกิจลูกค้าผู้ประกอบการ
3.    ธุรกิจลูกค้าบุคคล

ธนาคารกสิกรไทยแบ่งกลุ่มลูกค้าออกเป็น 8 กลุ่ม

1.    ลูกค้าสหบรรษัทธนกิจ
2.    ลูกค้าบรรษัทธนกิจ
3.    ลูกค้าผู้ประกอบการขนาดกลาง
4.    ลูกค้าผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดย่อม
5.    ลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูง
6.    ลูกค้าบุคคลพิเศษ
7.    ลูกค้าบุคคลระดับกลาง
8.    ลูกค้าบุคคลทั่วไป

ช่องทางหลักในการให้บริการลูกค้าของธนาคารกสิกรไทย

1. สาขาและสำนักงานย่อยในประเทศ
2. สำนักงานแลกเปลี่ยนเงิน
3. ศูนย์บริการและมุมรับรองลูกค้าเดอะวิสคอม
4. ศูนย์ธุรกิจลูกค้าบรรษัท
5. ศูนย์ธุรกิจลูกค้าผู้ประกอบการ
6. ศูนย์บริการธุรกิจ
7. บริการจ่ายเช็ค
8. สาขาและสำนักงานผู้แทนในต่างประเทศ

ธนาคารกสิกรไทยได้แบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ออกเป็น 4 กลุ่ม

1. ฝากถอนโอนและปฏิบัติการ
2. ออมเงินและลงทุน
3. ระดมทุนและกู้ยืม
4. ป้องกันความเสี่ยงและสารสนเทศ

กลยุทธ์สร้างความแตกต่าง

ธนาคารได้ดำเนินงานตามกลยุทธ์หลัก 3 ด้าน ได้แก่

1)            การพัฒนาผลิตภัณ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกัน ทั้งกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการที่มีข้อจำกัดด้านค้ำประกัน และกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการที่การลดผลกระทบจากปัจจัยทางธุรกิจ เช่น ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ลูกค้าที่ต้องการความยืดหยุ่นในการใช้บริการสินเชื่อเพื่อบริหารสภาพคล่อง ลูกค้าที่ขาดประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจ และลูกค้าที่ต้องการลงทุนกับคู่ค้ารายใหญ่เป็นต้น

2)            การสร้างแบรนด์และทำการตลาด โดยมุ่งที่ฐานการตลาดต่างจังหวัด ด้วยกลยุทธ์การตลาดท้องถิ่น (Localized Marketing) เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้ประกอบการที่ยังไม่เป็นลูกค้าของธนาคาร และตอบสนองต่อความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ นอกจากนี้ยังส่งเสริมแบรนด์ K SME ของธนาคาร ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้ที่มุ่งหวังเริ่มต้นธุรกิจและกลุ่มผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจทั่วประเทศทั้งด้วยการสนับสนุนองค์ความรู้ในการดำเนินธุรกิจ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดอย่างต่อเนื่อง

3)            การส่งมอบประสบการณ์ขายและบริการที่เป็นเลิศโดยมุ่งพัฒนาคุณภาพของทีมดูแลลูกค้าผู้ประกอบการ ผ่านการประเมินผลงานของพนักงานอย่างสม่ำเสมอ ทั้งในมิติของการที่ลูกค้าสามารถติดต่อพนักงานได้อย่างง่ายและพนักงานสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกเวลาโดยเฉพาะในเวลาเร่งด่วน การนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการของธนาคารอย่างครบถ้วนและเหมาะสมกับธุรกิจและความต้องการ ตลอดจนการช่วยติดตามและแจ้งสถานะการสมัครหรือการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง

      กลยุทธ์การตลาดของธนาคาร ประกอบด้วย 4P

1)            ผลิตภัณฑ์ของธนาคารกสิกรไทยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม

ได้แก่ กลุ่มฝากถอนโอนและปฏิบัติการ กลุ่มออมเงินและลงทุน กลุ่มระดมทุนและกู้ยืม รวมทั้งกลุ่มป้องกันความเสี่ยงและสารสนเทศ

กลุ่มที่ 1 กลุ่มฝากถอนโอนและปฏิบัติการ

การนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ การปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการดำเนินงาน โครงการส่งเสริมการขายและการตลาด

·       บริการ “K-BIZALERT” (บริการแจ้งรายการเดินบัญชีเงินฝากผ่าน SMS) โดยธนาคารจะส่ง SMS แจ้งสำหรับรายการเดินบัญชีทุกรายการที่มีเงินเข้าและออกจากบัญชีเงินฝาก รวมถึงการแจ้งยอกคงเหลือของบัญชีเงินฝาก ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในการตรวจสอบความเคลื่อนไหวของการเดินบัญชี ·       บริการ “K-Cash Card” (บัตรเงินสด สำหรับผู้ที่ไม่มีบัญชัธนาคารกสิกรไทย) โดยบริษัทเป็นผู้นำเงินเข้าบัตร และผู้ถือบัตรสามารถนำบัตรไปถอนเงินได้ที่เครื่องเอทีเอ็มทุกธนาคารทั่วประเทศ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการบริหารเงินสดให้กับธุรกิจ ขณะเดียวกันยังทำให้เกิดความสะดวก รวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่าย ในการจัดการเรื่องเงินเดือน ค่าแรง เบี้ยเลี้ยงของพนักงาน ตลอดจนค่าสินค้าและเงินสดสำรองของธุรกิจ โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีบัญชีหลายธนาคาร ·       บริการ Fill & Go (บริการเติมน้ำมันโดยอาศัยระบบระบุยานยนต์ด้วยเทคโนโลยีไร้สาย : Vehicle Identification System – Ratio Frequency Identification Technology) โดยธนาคารร่วมกับ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) นำเสนอนวัตกรรมในการควบคุมและตรวจสอบการเติมน้ำมันในสถานีบริการน้ำมัน ด้วยอุปกรณ์วงแหวนพิเศษที่บันทึกข้อมูลเฉพาะของรถแต่ละคันทั้งเลขทะเบียนรถ ประเภทของน้ำมันที่กำหนดให้เติม จำนวนน้ำมันที่กำหนดให้เติมในแต่ละครั้งวัน เดือน ปี สถานีบริการน้ำมันที่เติม ซึ่งนอกจากจะควบคุมการจ่ายน้ำมันแล้ว เจ้าของธุรกิจยังสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายต้นทุนค่าน้ำมัน และคำนวณอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรวมทั้งเป็นแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจได้อีกด้วย ·       บริการ “K-CONNEX” เป็นนวัตกรรมที่ทำให้ลูกค้ากลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีโครงสร้างเครือข่ายสับซ้อนสามารถทำธุรกรรมทางการเงินและบริหารจัดการสภาพคล่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมองเห็นกระแสเงินของบริษัทในเครือข่ายทั้งหมด ด้วยระบบที่ออกแบบให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงและกำหนดสิทธิการเข้าถึงข้อมูล เพื่อบริหารจัดการสถานะทางการเงินผ่านแท็บแล็ตและสมาร์ตโฟนทุกระบบโดยมีความปลอดภัยระดับสูงสุด พร้อมระบบปรับปรุงบัญชีย้อนหลังอัตโนมัติ ซึ่งช่วยลดเวลาในการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทางบัญชี ·       ผลิตภัณฑ์ Operative Account เป็นการรวมผลิตภัณฑ์เพื่อการเดินบัญชี สำหรับกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการขนาดกลาง อาทิ การเรียกเก็บเช็คข้ามเขต การทำธุรกรรมผ่านอินเตอร์เน็ตรวมถึงรายงานการเดินบัญชี เพื่ออำนวยความสะดวกและลดค่าใช่จ่ายในการทำธุรกรรมรวมถึงเพิ่มศักยภาพในการจัดการทางการเงินให้ลูกค้า ·       บริการรับโอนเงินจากต่างประเทศผ่านเครือวีซ่า (VISA Personal Payments) เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ถือบัตรเดบิตกสิกรไทยทุกประเภท โดยจะได้รับเงินโอนจากต่างประเทศได้รวดเร็วภายในไม่กี่นาที หลังการแจ้งหมายเลขบัตรเดบิตกสิกรไทย 16 หลัก และจำนวนเงินที่โอน ตามรายละเอียดและเงื่อนไขที่กำหนด ·       ผลิตภัณฑ์ชุดเช็คของขวัญแทนใจ สำหรับวาระพิเศษ ได้แก่ วันแต่งงาน วันเกิด การแสดงความยินดี รวมถึงเทศกาลตรุษจีน โดยได้มอบชุดเช็คของขวัญเทศกาลตรุษจีนแก่ลูกค้าที่สั่งซื้อหน่วยลงทุนกองทุนรวมตามเงื่อนไขที่กำหนด ·       การปรับปรุงบริการร้านค้ารับบัตร ทำให้เป็นธนาคารแรกในภูมิภาค Asia-Pacific ที่ให้บริการ K-powerP@y (mPOS) ที่ครอบคลุมการใช้งานระบบปฏิบัติ Android และ IOS นอกจากนี้ยังได้ร่วมกับพันธมิตรธุรกิจนำเสนอนวัตกรรมในการชำระค่าสินค่าบริการแก่กลุ่มลูกค้าใหม่ที่ยังไม่มีสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ Mpos ด้วยแพ็กเกจ “ธุรกิจใส่กล่อง” (Business in a box) พร้อมกับแคมเปญพิเศษแก่ผู้ถือบัตรเครดิตกสิกรไทยที่ชำระค่าสินค้าบริการผ่านช่องทาง Mpos ขณะเดียวกันธนาคารได้พัฒนาโปรแกรมบนเครื่อง EDC เพิ่มเติม 2 เรื่อง คือ การรับรองบัตร แบบ Chip Card และการเชื่อมต่อเครื่อง EDC กับเครื่องอ่าน Bar Cord ที่กรมการกงสุล เพื่อให้มีข้อมูลใน Sale Slip สำหรับใช้ประโยชน์ในการอ้างอิง อีกทั้งติดตั้ง pay wave readers สำหรับรองรับการทำรายการของบัตราเครดิต ณ ร้านค้าใหญ่ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายในธุรกิจหลัก เช่น ซุปเปอร์มาร์เก็ต โรงภาพยนต์ ร้านหนังสือ เป็นต้น ·       การปรับปรุงบริการด้านบัตรเดบิต โดยเสนอทางเลือก K-SME Debit Card ออกแบบลายหน้าบัตรเดบิตตามความต้องการ พร้อมทั้งพัฒนาเว็บไซต์ www.askkbank/kbankcard ทั้งในด้านเนื้อหารูปลักษณ์ และการใช้งานให้ง่ายยิ่งขึ้น ·       บริการรับฝากทรัพย์สิน ในปี 2556 ธนาคารได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้รับฝากทรัพย์สินของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพขององค์กรรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ 2 ราย ที่มีมูลค่าทรัพย์สินรวมมากกว่า 60,000 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ธนาคารยังได้พัฒนาระบบงานเพื่อรองรับการเก็บรักษาทรัพย์สินที่มีความหลากหลายมากขึ้น อาทิ โฉนดที่ดิน และเอกสารสำคัญต่างๆ เพื่อรองรับการให้บริการด้านการลงทุนของกลุ่มลูกค้าบริษัทประกัน และกลุ่มลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูง ·       บริการผู้ดูแลผลประโยชน์กองทุนรวม ธนาคารได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ดูแลผลประโยชน์กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานที่มีมูลค่าทรัพย์สินกองทุนรวมกันกว่าแสนล้านบาท และกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่จัดตั้งขึ้นภายในปี 2556 นอกจากนี้ ธนาคารยังได้ขยายการให้บริการเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์กองทุนรวมแก่ บลจ. ต่างๆ ที่สนใจในกองทุนรวมต่างประเทศ ด้วยเครือข่ายพันธมิตรที่มีความเข้มแข็ง ทำให้สามารถให้บริการได้เต็มรูปแบบ แม้ในประเทศที่มีกฏระเบียบเฉพาะ เช่น กองทุนรวมของประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น ·       บริการตัวแทนสินเชื่อและหลักประกันโครงการขนาดใหญ่ ธนาคารสามารถขยายบริการและเพิ่มลูกค้าใหม่ในช่วงปี 2556 ที่ผ่านมาได้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากโครงการผลิตไฟฟ้าขนาดใหญ่หลายโครงการ ·       การพัฒนาระบบบริการงานนายทะเบียนหลักทรัพย์ โดยปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานและเพิ่มคุณภาพการให้บริการ เพื่อให้สามารถรองรับการให้บริการแก่กองทุนที่มีความหลากหลายเพิ่มขึ้นตลอดจนจำนวนกองทุน มูลค่าทรัพย์สิน และปริมาณการทำรายการ ที่เพิ่มสูงอย่างรวดเร็ว ·       การปรับปรุงระบบงานปฏิบัติการจัดการกองทุน (Fund Accounting) เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าผู้ลงทุนรายใหญ่อย่างครบวงจร ทั้งในด้านการบริหารจัดการการลงทุนและกำอำนวยความสะดวกให้กับส่วนงาน Back Office ให้ช่วยลดต้นทุนการบริการจัดการและสามารถใช้ข้อมูลการลงทุนในเชิงบริหารได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว ·       การจัดรายการส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นการใช้บริการออกหนังสือค้ำประกันกับธนาคาร “LI ลดทุกฉบับ กับกสิกรไทย (LI Discount Fee)” โดยให้ส่วนลดค่าธรรมเนียมแก่กลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการขนาดกลาง เมื่อมีการใช้บริการออกหนังสือค้ำประกันตามเงื่อนไขและภายในช่วงระยะเวลาการส่งเสริมการขายที่กำหนด ·       การจัดรายการส่งเสริมการขายสำหรับบริการด้านธุรกิจร้านค้ารับบัตร “EDC มอบความสุข ทุกร้านค้า (Up Sell 2013รอบ2)” สำหรัยกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการขนาดกลาง ขนาดเล็ก และขนาดย่อม เพื่อกระตุ้นการใช้เครื่องอนุมัติวงเงินอัตโนมัติ(EDC) ของธนาคารเป็นหลัก โดยมอบบัตรกำนัลแทนเงินสด10,000 บาท เมื่อมียอดรับชำระค่าสินค้าและบริการส่วนเพิ่มตามเงื่อนไขและภายในระยะเวลาที่กำหนด ·       การจัดการส่งเสริมการขายสำหรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ “รับเงินคืน เมื่อใช้อัตราและเปลี่ยน (FX) กับธนาคารกสิกรไทย” สำหรับกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการขนาดกลางที่ทำธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศที่มียอดโอนเงินกับธนาคาร เพื่อกระตุ้นยอกขายการซื้อขายเงินตราต่างประเทศและสนับสนุนให้ลูกค้าทำธุรกรรมกับธนาคารอย่างต่อเนื่อง โดยให้สิทธิรับเงินคืนสูงสุด 160,000 บาท เมื่อมียอดโอนส่วนเพิ่มตามเงื่อนไขที่กำหนดภายในระยะเวลาส่งเสริมการขาย ·       การจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดสำหรับบริการ K-PowerP@y (mPOS) เพื่อสนับสุนลูกค้ารายย่อยให้สามารถขายสินค้าและบริการได้ทุกที่ทุกเวลา พร้อมกับเสนอแคมเปญพิเศษแก่ผู้ถือบัตรเครดิตกสิกรไทยและลูกค้ารายย่อยที่สมัครบริการ โดยธนาคารได้ขยายบริการ mPOS ครอบคลุมถึงแหล่งรวมร้านค้า ร้านขายของที่ระลึก และร้านอาหารชั้นนำต่างๆ ของกรุงเทพ ·       การจัดกิจกรรมการตลาดในโครงการ “สะสมสติ๊กเกอร์ล่าขุมทรัพย์โดราเอมอน” เพื่อกรุตุ้นการทำธุรกรรมการชำระเงินและเติมเงินโทรศัพท์มือถือที่ธนาคารกสิกรไทยอย่างต่อเนื่องโดยขยายเวลาเคมเปญไปจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2556 ·       การจัดรายการส่งเสริมการตลาดร่วมกับพัธมิตรผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ชั้นนำ โดยลูกค้าที่สมัครบริการชำระค่าโทรศัพท์ผ่านบัญชีธนาคารหรือบัตรเครดิตกสิกรไทย จะได้รับสิทธิโทฟรี พร้อมรับสิทธิชิงโชคอื่นๆ ตามเงื่อนไขที่กำหนด ·       การกิจกรรมส่งเสริมการตลาดชุดเช็คของขวัญแทนใจ ในช่วงปลายปีธนาคารได้จัดโปรโมชั่นลดค่าธรรมเนียมร้อยละ 50 สำหรับรองรับช่วงเทศกาลการแต่งงาน และเทศกาลแห่งความสุขต่างๆ ขณะที่ตลอดทั้งปีมีการออกงานสัมมนา แนะนำผลิตภัณฑ์ และส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องแก่กลุ่มเป้าหมาย ·       การกิจกรรมส่งเสริมการตลาด โดยนำเสนอสิทธิประโยชน์ของบัตรเดบิตให้สอดคล้องกับรูปแบบการดำเนินชีวิตของลูกค้ามากขึ้น ด้วยการใช้บัตรเพียงใบเดียวในการทำธุรกรรมได้อย่างครอบคลุม ทั้งธุรกรรมการเงิน การเดินทาง ท่องเที่ยว ชมภาพยนต์ การซื้อสินค้าและบริการในร้านค้าและผ่านสื่อออนไลน์ อีกทั้งยังมีการจัดโครงการส่งเสริมการตลาดใหม่ทุกเดือนเพิ่มเติมจากสิทธิประโยชน์ปกติ นอกจากนี้ ได้จัดโครงการ “บัตรเดบิตชีวิตเปลี่ยนได้ ลุ้นทองแสนทุกวัน ล้านทุกสัปดาห์” เพื่อกระตุ้นการสมัครบัตรเดบิตของลูกค้า และแคมเปญ “LINE Sticker Discount 50%” สำหรับผู้ถือบัตรเดบิต LINE ในการรับส่วนลดในการซื้อสติกเกอร์ตามเงื่อนไขกำหนด

กลุ่มที่ 2 กลุ่มออมเงินและลงทุน

การนำเสนอผลิตภัณฑ์เละบริการใหม่

• ผลิตภัณฑ์เงินรับฝากใหม่ ธนาคารออกแบบผลิตภัณฑ์จากพฤติกรรมการฝากเงินของลูกค้าที่แตกต่างกันในแต่ละกลุ่ม โดยเสนอโครงการฝากเงินประจำพิเศษ ดอกเบี้ยสูง ระยะเวลาตั่งแต่ 4-10เดือน ตลอดทั่งปีแก่กลุ่มลูกค้าบุคคลรายใหญ่ ส่วนลูกค้าระคับกลาง นำเสนอเงินฝากประจำพิเศษ “ถอนได้ ดอกก็ดี 13 และ 14 เดือน” รวมถึงเงินฝาก “ซูเปอร์ ทวีทรัพย์”  พร้อมเพิ่มกิจกรรมทางการตลาดช่วงปลายปี โดยเฉพาะลูกค้าในส่วนภูมิภาค นอกจากนนี้ ยังออกเงินฝากประจำ “เลดี้ ทวีทรัพย์” ที่รวมสิทธิพิเศษสำหรับ ไลฟ์สไตล์ของผู้หญิงโดยเฉพาะ ส่งผลให้ยอดเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกเดือนตั่งแต่ต้นปี
• การออกกองทุนใหม่ ธนาคารร่วมกับ บลจ. กสิกรไทย จัดยังและเสนอขายกองทุนรวมทั่งสิ้น 210 กองทุนในปี 2556 ซึ่งสวนใหญ่กองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ทั่งภายในประเทศและต่างประเทศ ระยะสั้นถึงระยะกลาง นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้ลงค้ามีทางเลือกลงทุนในกองทุนประเภทหุ้นทุน ที่ลงทุนในประเทศและต่างประเทศ ทั่งประเภทกำหนดเป้าหมายผลตอบแทนจากการลงทุน และประเภทอ้างอิงดัชนีการลงทุน อาทิ “กองทุนเปิดเต เซ็ท 50 เพื่อการเลี้ยงชีพ(K SET50 RMF)” ซึ่งเป็นกองทุนส่งเสริมการอ้อมระยะยาวที่อ้างอิงกับดัชนี SET 50 และเปิดกองทุน “เค เอเชียน สมอลเลอร์ หุ้นทุน (K ASIA) ที่ลงทุนในตราสารแห่งทุนและใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงของบริษัทขนาดเล็ก (Small-cap) ในภูมิภาคเอเชียตลอดจนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทุนโครงสร้างพื้นฐานธุรกิจโรงไฟฟ้ากองแรกของไทย

การปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการ

• การส่งเสริมการพัฒนาตลาดรองตราสารหนี้ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้ลงทุนทั่งไป และเสริมสภาพคล่องในการซื้อขายเปลี่ยนมือให้กับลูกค้าของธนาคารที่ลงทุนในหุ้นกู้ โยในปี 2556 ธนาคารมีสัดส่วนการตลาดเป็นอันดับ 1 ในตลาดครองตราสารหนี้ภาครัฐและภาคเอกชน ด้วยปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ภาครัฐ (Government Bonds) รวมกว่า 3 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยล่ะ 11.14 ของปริมาณซื้อขายตราสารหนี้ภาครัฐทั่งหมด และมีการซื้อขายตราสารหนี้ภาคเอกชนรวมกว่า 1.2 แสนล้านบาท หรือเท่ากับร้อยละ 26.87 ของปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ภาคเอกชนทั้งหมด

กลุ่มที่ 3 กลุ่มระดมทุนและกู้ยืม

             

การนำเสนอผลิตภัณฑ์เละบริการใหม่

• โครงการ “K-Top-Up Loan for Energy Saving (Lighting Solution)” (สินเชื่อประหยัดไฟกสิกรไทย)ด้วยวงเงินสินเชื่อรวม 500 ล้านบาท สำหรับสนับสนุนให้ผู้ประกอบการนำไปลงทุนปรับเปลี่ยนหลอดไฟที่ใช้ในกิจการ ให้เป็นหลอดประหยัดไป LED ซึ่งจะช่วยลดการใช้พลังและประหยัดต้นทุนค่าไฟโดยธนาคารให้วงเงินสินเชื่อสูงสุดร้อยละ 100 ขิงเงินทุนทั่งหมด ที่ครอบคลุม ถึงค่าหลอดไฟ LED ค่าติดตั้ง และค่าดำเนินการอื่น โยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค่ำประกัน เป็นวงเงินกู้ระยะยาวสูงสุด 3 ปี ทั้งนี้ผู้กู้จะได้รับบริการครบวงจรจากบริษัทจัดการด้านพลังงาน (ESCO) และบริษัทซัพพล่ายเออร์หลอดที่มีความรู้ด้านการจัดการพลังงานแสงสว่าง ตั้งแต่การให้คำแนะนำ ตลอดจนเป็นผู้รับประกันผลคุณภาพสิ้นค้า (Warrantee Product) และรับประกันผลการประหยัดพลังงานไฟฟ้า (Warrantee Performance)
• ผลิตภัณฑ์สินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดย่อม ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ “สินเชื่อเงินกู้เต็มที่แค่มีบัญชีหลีก” สำหรับลูกค้าที่เดินบัญชีกับธนาคารเป็นหลักและมีประวัติทางการเงินดี แต่มีข้อจำกัดด้านมูลค่าหลักประกันไม่เพียงพอ ผลิตภัณฑ์ “K-SME OD Convert Credit”(สินเชื่อวงเงินหมุนเวียนส่วนเพิ่ม) สำหรับลูกค้าที่มีวงเงินกู้อยู่เดิมกับธนาคาร และมีการผ่อนชำระมาแล้วระยะหนึ่ง โดยธนาคารจะให้นำวงเงินส่วนที่ผ่อนชำระไปแล้วกลับมาเป็นวงเงินหมุนเวียนประเภทโอดี หรือตั๋วสัญญาใช้เงิน นอกจากนี้ ธนาคารยังร่วมมือกับ สสว. จัดโครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในประเภทธุรกิจ และ/หรือ ในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากนโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ด้วยการนำเสนอวงเงินสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ และระยะเวลากู้ที่เหมาะสม อีกทั้งยังร่วมมือกับบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ค้าส่งรายใหญ่ของประเทศไทย นำเสนอสินเชื่อวงเงินสูงสุดร้อยละ 100 ของมูลค่าหลักประกันแต่ไม่เกิน 5 ล้านบาท ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เป็นคู่ค้ากับบริษัทดังกล่าว
•  โครงการ “K-Government Construction Credit” (สินเชื่อเพื่อผู้รับเหมางานภาครัฐ) โดยให้วงเงินหนังสือค่ำประกันที่เหมาะสม เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องทางธุรกิจ เพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขัน และสนับสนุนให้ลูกค้าสามารถคำเนินธุรกิจได้อย่างครบวงจร
• ผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย โดยร่วมกับบริษัทตลาดครองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.) นำเสนอโครงการสินเชื่อบ้านกสิกรไทยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ รวมทั้งจัดทำโปรโมชั่นพิเศษสำหรับพื้นที่ในจังหวัดยุทธศาสตร์ เพื่อรองรับการขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ไปยังหัวเมืองต่างๆ
• ผลิตภัณฑ์ K-SME Express Cash (สินเชื่อเงินสดทันใจกสิกรไทยเพื่อผู้ประกอบการ) โดยนำเสนอสิทธิพิเศษเพิ่มเติม ได้แก่ อัตราดอกเบี้ยพิเศษ ประกันคุ้มครองยอดค่าใช่จ่าคงค้าง รวมถึงสิทธิประโยชน์ ทางด้านการเงิน และองค์ความรู้ที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการขนาดกลาง ขนาดเล็ก ขนาดย่อม
• ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตใหม่ เปิดตัว “KBank UnlonPay Credit Card” (บัตรเครดิตยูเนี่ยนเพย์กสิกรไทย) ร่วมกับยูเนี่ยนเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนล เพื่อรองรับการใช่จ่ายผ่านบัตรเครดิตของลูกค้าคนไทยให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ของประเทศจีน ฮ่องกง มาเก๊า และกว่า 140 ประเทศทั่วโลก ขณะที่ในช่วงต้านปี2556 ธนาคารได้ร่วมกับ บมจ. ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล นำเสนอบัตรเครดิตร่วม His&Her-กสิกรไทย อีกทั่งยังปรับปรุงการนำเสนอผลิตภัณฑ์ (Relaunch) “บัตรเครดิตเคเวฟกสิกรไทย เร็วกว่า...แค่แตะบัตร ไม่ต้องรูด...ไม่ต้องเซ็น” นอกจากนี้ ธนาคารยังมุงขยายฐานลูกค้าระคับบนโดยมอบบัตร “THE WISDOM” “THE PREMIER” และ “Platinum” ให้กับลูกค้ารายใหม่อย่างต่อเนื่อง
• ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตนิติบุคคล พีที แมกช์ ฟลีทการ์ด (PT MAX Fleet Card) ซึ่งเป็นบัตรเครดิตสำหรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นบริษัทธุรกิจ หน่วยงานราชการ หรือรัฐวิสาหกิจ ใช้เติมน้ำมันหรือผลิตภัณฑ์อื่นที่กำหนด ณ สถานีบริการน้ำมันพีทีทั่วประเทศ

การปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการ

• การปรับปรุงผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดย่อม ได้เก่ โครงการ “สินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการมีหลักประกันคุณภาพสูง” โดยขยายขอบเขตการพิจารณาคุณภาพของหลักทรัพย์ค้ำประกันให้ครอบคลุมมากขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งทุนในระบบให้กับลูกค้าที่ไม่มีหลักฐานการเดินบัญชี โครงการ “สินเชื่อที่ไม่ต้องแสดงหลักทรัพย์ค่ำประกันกสิกรไทย” โดยปรับเพดานวงเงินให้สูงขึ้นมากเพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจ โครงการ “สินเชื่อดั่งใจแบบมีช่วงระยะเวลาปลอดภัยเงินต้น” โดยกำหนดระยะเวลา 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับพื้นที่และผลกระทบจากการปรับค่าแรง และโครงการ “PGS New/Start-up SMEs” (สินเชื่อสนับสนุนผู้ประกอบการใหม่) เป็นการต่อยอดโครงการสินเชื่อเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการใหม่ โดยธนาคารร่วมมือกับบริษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) สนับสนุนวงเงินสินเชื่อแบบมี บสย. ค้ำประกันให้กับกลุ่มธุรกิจเริ่มต้น
• บริการหนังสือค้ำประกัน โดยธนาคารได้ลงนามร่วมกับกรมศุลกากร ในบันทึกข้อตกลงให้บริการค้ำประกันการชำระค่าค่าภาษีอากรทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Guarantee) แก่ผู้ประกอบการนำเข้าและส่งออกหรือหนังสือค้ำประกันได้ โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมายังธนาคาร
• การให้คำแนะนำด้านการระดมทุนและจัดหาเงินทุนให้แก่ลูกค้า ผ่านบริการวาณิชธนกิจที่มีความหลากหลายของรูปแบบการระดมทุน ซึ่งครอบคลุมตลาดทั่งในและต่างประเทศ โดยปี 2556 ธนาคารได้ให้คำแนะนำในการจัดการเงินกู้ร่วม การจัดตั่งกองรวมอสังหาริมทรัพย์ การจัดตั่งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (กองรีทส์) การจัดตั่งกองทุนรามโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานของโรงไฟฟ้าขนาดลงทุน 6300 ล้านบาท การให้คำปรึกษาทางการเงินในสินเชื่อโครงการ โดยเฉพาะกิจการพลังงานทดแทน การระดมทุนในกิจการด้านพลังงาน การออกตราสารหนี้นอกจากนี้ ธนาคารยังให้บริการระดมทุนผ่านตลาดตราสารทุน อาทิบริการที่ปรึกษาด้านการซื้อและควบรวมกิจการ การหาผู้ร่วมทุน รวมถึงการนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
• ปรับปรุงบริการ “เงินสดโอนไวภายใน 1 ชั่วโมง” สำหรับลูกค้าที่สมัคบริการสินเชื่อส่วนบุคคลที่ K-Express Credit Center หรือในกิจกรรมที่จัดตามงานมหกรรมการเงินต่างๆ โดยสามารถรับกู้ก้อนแรกผ่านโอนเข้าบัญชีเงินฝากกสิกรไทยภายใน 1 ชั่วโมงหลังจากได้รับการอนุมัติสินเชื่อ

การปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการดำเนินการ

• การปรับปรุงกระบวนการดำเนินงาน เพื่อให้การขอสินเชื่อของกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการขนาดกลางเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้นและเพียงพอต่อความต้องการ รวมถึงมีการวางแผนความต้องการสนับสนุนทางการในอีก 1 ปีข้างหน้าร่วมกัน เพื่อให้ทั่งลูกค้าและผู้ดูแลสินเชื่อมีการเตรียมความพร้อมเพื่อส่งมอบบริการที่ครบวงจรและเป็นเลิศ
• ปรับปรุงชองทางบริการสินเชื่อบ้านกสิกรไทยทั่งบนเว็บไซต์ askkbank.com/khomesmilesclub และโทรศัพท์เคลื่อนที่ K-Home Loan on Mobile เพื่อยกระดับสินเชื่อบ้านกสิกรไทย และตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านดิจิตอล โดยลูกค้าสามารถตรวจผลการอนุมัติสินเชื่อบ้านเบื้องต้นด้วยตนเอง มีบริการแจ้งผลวงเงินอนุมัติเบื้องต้อนผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ Smart Phone และการส่งข้อความสั้น (Sms) แทนการส่งจดหมาย รวมถึงเปิดตัวระบบสมาชิก K Home Smiles Club Member เพื่อเป็นช่องทางการติดต่อสื่อสาร แจ้งข้อมูล ข่าสาร สิทธิพิเศษ กิจกรรมต่างๆ ที่ทาง K Home Smiles club จัดขึ้น
• การปรับปรุงและเพิ่มช่องทางการสมัคบริการบัตรเครดิต โดยเปลี่ยนแปลงลิงค์สมัคบัตรเครดิต บนเว็บไซต์ของธนาคารกสิกรไทยและพันธมิตรบัตรเครดิตร่วม เพื่อให้สมัคบัตรได้ง่ายและเพิ่มโอกาสการเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น

โครงการส่งเสริมการขายและการตลาด

• การจัดรายการส่งเสริมการขาย “ลุ้นทอง พร้อมรับของรางวัล สำหรับลูกค้าที่ตลาดสนามบินน้ำและวังพุง” เพื่อส่งเสริมการขอสินเชื่อวงเงินโอนพิเศษสำหรับชำระค่าสินค้าของลูกค้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ประกอบการขายล็อตเตอรี่ที่วังละพุงและสนามบินน้ำ ตามเงื่อนไขและระยะเวลาที่กำหนด
• การจัดการสัมมนาส่งเสริมความรู้ด้านการประหยัดพลังงานแก่กลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการ รวมถึงแนะนำผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่เกี่ยวเนื่องได้แก่ ผลิตภัณฑ์ “K-Energy Saving Guarantee Program” (สินเชื่อรับประกันผลประหยัดพลังงานกสิกรไทย)
• การจัดกิจกรรมการตลาดสำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารได้จัดแคมเปญการตลาด สินเชื่อบ้านในยุคดิจตอลบน  Social Media ด้วยโครงการ “สินเชื่อบ้านกสิกร คลิก like ลุ้นเบนช์” “K-Home Loan on Mobile สินเชื่อบ้านกสิกรไทย รู้ผลฉับไวผ่านมือถือ” และล่าสุด “แคมเปญ @ Home Banking Solution (Miracle Eyes)” ปลอดภัยสูงสุดกับระบบแจ้งเตือนเหตุร้ายอัตโนมัติ ที่ เสนอ แผนดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของเจ้าของบ้านอย่างครบวงจรขณะเดียวกันธนาคารได้นำเสนอโครงการ “การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ” สำหรับลูกค้าสินเชื่อบ้านที่ผ่อนชำระค่างงวดบ้านมากกว่าเงื่อนไขปกติก่อนวันครบกำหนด จะได้รับคะแนนพิเศษบัตรเครดิตเพิ่ม ระหว่างวันที่กำหนด นอกจากนี้  ธนาคารได้จัดรายการส่วนเสริมการขายสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษร่วมกับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ การออกบูธในงานมหกรรมการเงินและงานเกี่ยวกับบ้านตลอดจนจัดกิจกรรมสำหรับครอบครัวที่สร้างความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้ากับธนาคารอย่างต่อเนื่อง
• การจัดกิจกรรมการตลาดสำหรับสินเชื่อเงินสดทันใจกสิกรไท และ/บัตรกดเงินสด K-Express Cash เพื่อสร้างการรับรู้ในผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้า ผ่านการสื่อสารการตลาดแบบครบวงจรทุกรูปแบบทั่งได้ส่งเสริมให้ลูกค้าชำระเงินภายในระยะเวลาที่กำหนดอย่างสม่ำเสมอ ผ่านโครงการ “มีวินัย จ่ายคืนดี ลดดอกเบี้ยสูงสุด 12 % ต่อปี” สำหรับลูกค้าใหม่ที่สมัคบัตรพร้อมบริการเงินสดโอนไว ประกอบกับกิจกรรมการตลาดล่าสุด “แต่งงานกันนะ” ที่ชักชวนลูกค้า K-Express Cash ร่วมสนุกส่งคลิปและแชร์วีดีโอการแต่งงานหรือการขอแต่งงานในช่วงเวลาที่กำหนด เพื่อชิงรางวัล
• การจัดกิจกรรมการตลาดและโครงการส่งเสริมการขายสำหรับบัตรเครดิต อาทิ โครงการ “รับกระเป๋า Line Limited Edition” เมื่อลูกค้าสมัคบัตรเครดิตร่อมกสิกรไทย และมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรตามเงื่อนไขภายในระยะเวลาที่กำหนด โครงการ”ลุ้นรถ...รวยทอง ฟรีทุกเดือน กับบัตร K-SME Card”สำหรับลูกค้าผู้ประกอบการที่สมัคบัตรและมียอดใช้จ่ายตามเงื่อนไขที่กำหนด อีกทั่งธนาคารยังออกกระตุ้นยอดใช่จ่ายผ่านบัตรตลอดทั่งปีในหมวดท่องเที่ยว ช้อปปิ้ง และร้านอาหารชั้นนำโดยเฉพาะช่วงไตรมาสสุดท้าย ขณะเดียวกัน  ธนาคารยังให้ความสำคัญกับคุณภาพหนี้และส่งเสริมให้ลูกค้าลดหนี้ ด้วยโครงการ “ไม่เป็นหนี้ข้ามปี” ที่ลูกค้าจะได้รับคะแนนสะสมเพิ่มอีกเท่าตัวเมื่อชำระค่าสินเชื่อบัตรเครดิตโดยไม่มียอดค่างชำระ นอกจากนี้ ในปี 2556 ธนาคารมีโครงการที่สร้างความแตกต่างและตอกย้ำความ เป็นผู้นำด้านการใช่จ่ายผ่านบัตรเครดิต ได้แก่ โครงการ  “1,000,000 เซอร์ไพรส์ ล้านประทับใจ” เพียงแสดงบัตรเครดิตกสิกรไทยเพื่อรับของกำนัลจากร้านค้าที่ร่วมรายการฟรีตลอดปี

กลุ่มที่ 4 กลุ่มป้องกันความเสี่ยงและสารสนเทศ

การนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการใหม่

• การนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตใหม่ ได้แก่ แบประกัน “Pro Annuity 85/5”สำหรับลูกค้าที่ต้องการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีในส่วนของประกันประเภทบำนาญ โดยสามารถวางแผนเกษียณได้ตั้งแต่อายุ 55 ปี และชำระเบี้ยสั้นเพียง 5 ปี แบประกัน “Pro Life 95/20 (Package)” ในโครงการหยุดได้หายห่วงสำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ประกอบอาชีพอิสระและมีรายได้ประจำในรูปแบเงินเดือน โดยให้ความคุ้มครองทั้งประกันชีวิต อุบัติเหตุ และค่าชดเชยรายวัน ด้วยดอกเบี้ยประกันต่ำ แบบประกัน “Pro Saving 1/5” ชำระดอกเบี้ยครั้งเดียวคุ้มครอง 5 ปี ควบคู่กับแบบประกัน “Pro Life 90/5” สำหรับลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่แสวงหาผลตอบแทนที่คุ้มค่า นอกจากนี้ ธนาคารยังนำเสนอกรมธรรม์ประกันสุขภาพ “Health Protect”เพื่อเป็นทางเลือก ในการซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมสำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม ด้วยวงเงินคุ้มครองสูงสุด 20,000 บาทต่อครั่ง แต่ไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี

การปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการ

• การเสนอผลิตภัณฑ์ป้องกันความเสี่ยงทางการเงินสำหรับลูกค้า โดยเน้นให้คำแนะนำในการบริหารความเสี่ยงด้วย FX Option เพื่อให้สามารถปิดความเสี่ยงได้ในกรณีที่ค่าเงินเคลื่อนไหวในทิศทางที่เกิดความเสียหาย แต่ขณะเดียวกันลูกค้าไม่เสียโอกาสหากเงินเคลื่อนไหวในทิศทางที่เป็นประโยชน์
• การปรับปรุงผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตเพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดกลุ่มลูกค้าใหม่ อายุการรับประกันชีวิต สำหรับแบบประกัน “Pro Saving 615” และ “Pro Saving 615 Guarantee” เป็นถึงอายุ 80 ปี จากเดิมรับประกันถึงอายุ 70 ปี และปรับปรุงหลักเกณฑ์การรับประกันลูกค้าต่างชาติสำหรับลูกค้าที่ถือวีซ่าเพื่อการท่องเที่ยว (Tourist Visa) และลูกค้าที่ไม่ต้องใช้วีซ่าเข้าประเทศไทย
• การปรับปรุงรูปแบบและการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัย เพื่ออำนวยความสะดวก แก่ลูกค้าด้วยการนำเสนอในรูปแบบ Product Box ที่เป็นแพ็กเกจอย่างสวยงาม โดยมีขั้นตอนการสมัคที่ไม่ซับซ้อน  ทั้งผลิตภัณฑ์ประกันภัยสำรับบุคคลและรถยนต์ อาทิ ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล(Accident Protect Plus) ประกันภัยวัยซน(P.A. for kid) ประกันอุบัติเหตุสำหรับผู้สูงอายุ(P.A. for Senior) ประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 (Car Protect 1) ซึ่งในปีนี้ได้เพิ่มเงื่อนไขความคุ้มครองและบริการพิเศษเหนือกว่าประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 โดยทั่วไป ประกันภัยรถยนต์ประเภท 3 (Car Protect 3) และประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ.

โครงการส่งเสริมการขยายและการตลาด

• การจัดสัมมนาให้ความรู้แก่ลูกค้า เรื่องอัตราการแลกเปลี่ยนเป็นรายเดือนให้มุมมองต่อเศรษฐกิจ ค่าเงินและดอกเบี้ย รวมถึงกลยุทธ์การป้องกันความเสี่ยง ซึ่งถ่ายทอดผ่านสื่อโทรทัศน์ทางช่อง Money Channel ในรายกาย Money Forum และรายงานสดทุกวันช่วงเช้าในรายการ Get SET

  2) ราคาและอัตราดอกเบี้ย   คลิก

    3)  ช่องทางการจัดจำหน่ายของธนาคาร

ธนาคารกสิกรไทย มุ่งพัฒนารูปแบบและประสิทธิภาพของช่องทางหลักในการให้บริการลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการเข้าถึงลูกค้า และส่งมอบประสบการณ์จากการใช้บริการอันน่าประทับใจ โดยในปี 2556 ธนาคารนำเสนอบริการในแต่ละช่องทางที่น่าสนใจ ดังนี้

แบ่งออกเป็น 3 ช่องทางบริการใหญ่

1.      สาขาและศูนย์ให้บริการทางการเงิน

	จำนวน		การดำเนินการที่สำคัญใน ปี 2556
	ปี 2556	ปี 2555
เครือข่ายสาขาธนาคาร	965	865	·        ขยายและพัฒนาช่องทางบริการและการขาย เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ Digita Banking อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ นองจากนี้ยังดำเนินการนำเทคโนโลยีมาใช้พัฒนาสื่อสารทางการตลาดเพื่อให้สาขาสามารถให้ข้อมูลและแก้ไขปัญหา ·        ตกแต่งแต่ละสาขาให้สะท้อนเอกลักษณ์ของท้องถิ่น ได้แก่ สาขาน่าฮักที่ เชียงคาน จ.เลย ·        เปิด K-Express Credit Center(ศูนย์สินเชื่อลูกค้ารายย่อย)ที่ห้างสรรพสินค้าพันธุทิพย์พลาซ่า ได้แก่ สินเชื่อบ้าน สินเชื่อเงินสด สินเชื่อรถ ·        สร้างความแตกต่างภาพลักษณ์การเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ 2,500คน ตลอด24ชั่วโมง
สำนักงานแลกเปลื่ยนเงิน	135	101	·         พัฒนาและประชาสัมพันธ์ช่องทางบริการในการแลกเปลื่ยนเงินตราต่างประเทศโดยมีช่องทางเพิ่มขึ้น 2 ช่องทาง ทั้งโทรศัพท์และผ่านเว็บไซต์ธนาคาร โดยสูกค้าสามารถใช้บัตรเครดิตและบัตรเดบิตกสิกรไทยในการแลกเงินราต่างประเทศได้
ศูนย์ธุรกิจลูกค้าบรรษัท	8	6	·        การเปิดศูนย์ให้บริการทางการเงินต่างๆและบริการจ่ายเซ็คนอกจากนี้ ยังเน้นกลยุทธ์การตลาดสำหรับภูมิภาคอาเซียนAEC
ศูนย์ธุรกิจลูกค้าผู้ประกอบการ	145	117
ศูนย์บริการธุรกิจ	63	63
บริการจ่ายเซ็ค	34	26

2. บริการธนาคารทางอิเล็กทรอนิกส์

	จำนวน		การดำเนินการที่สำคัญใน ปี 2556
	ปี 2556	ปี2555
K-ATM (บริการทางเอทีเอ็มกสิกรไทย)	8,740	7,603	·        เพิ่มประสิทธิภาพเครื่องเอทีอ็มด้วยการทยอยลงโปรแกรมบริการ ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ รวมถึงนำเสนอโครงการส่งเสริมการขายต่างๆทั้งของธนาคารและพันธมิตรธุรกิจ เพื่อเพิ่มขีดความสามารภด้านบริการและสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ·        จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อกระตุ้นธรุกรรมทางการเงินที่เครื่องอิเล็กทรอนิกส์โดยลูกค่าที่เข้าร่วมจะได้บัตรกำนันตามเงื่อนไข
K-CDM (บริการรับฝากเงินสด)	2,195	1,398	·        ทยอยปรับเปลื่ยนเครื่อง K-CDM รูปแบบใหม่อย่างต่อเนื่องให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าในการใช้บริการฝากและถอนเงินสดได้ในเครื่องเดียวกัน
K-PUM (บริการปรับสมุดเงินรับฝากอัตโนมัติกสิกรไทย)	1,118	992	·        เพิ่มจำนวนเครื่องและปรับเปลื่ยนที่ตั้งเครื่องไปในที่เหมาะสม เพื่ออำนวยความสะดวยให้แก่ลูกค้า
K-Cyber Banking (บริการธนาคารทางอินเตอร์เน็ตกสิกรไทย)			·        เพิ่มบริการโดยการเพิ่มช่องทางการสมัคร K-Cyber Banking ด้วยการสมัครเลขบัตรเครดิต 16 หลักทางออนไลน์ ·        ปรับปรุงบริการ โดยลูกค้า สามารถเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นของ บล. กสิกรไทยทางออนไลน์ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ·        จัดรายการส่งเสริมการขาย โดยมุ่งเน้นการเสนอสิทธิประโยชน์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าสมัครและใช้บริการ
K-Mobile Banking (บริการธนาคารทางโทรศัพท์มือถือกสิกรไทย)			·        พัฒนาการด้วยการเพิ่มฟังค์ชั่นการใช้ให้รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 3G และสมามรถเติมเงินมือถือ ·        จัดรายการส่งเสริมการขาย โดยนำ MUSIC MARKER เข้ามาเพื่อกระตุ้นยอดการสมัคร ·        ปรับปรุงและเพื่มประสิทธิภาพการบริการ โดยพัฒนารูปแบบการใช้งานหม่ให้เพิ่มความสามารถ และอำนวย K-MOBILE BANKING PLUS ·        ความสะดวกรวดเร็วในการบริการลูกค้า ทั้งในระบบ IOSและ Android ·        ปรับปรุงบริการ โดยการพัฒนาระบบให้รองรับการใช้งานของเครืองข่ายใหม่อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมถึงการใช้งานผ่าน WIFI
K-Payment Gateway (บริการรับชำระค่าสินค้าและบริการด้วยบัตรเครดิต และบัตรเดบิตธนาคารกสิกรไทย)			·        K-Payment Gateway Clinicที่ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับระบบรับชำระเงินทางอินเตอร์เน็ตสำหรับผู้ประกอบการที่มีเว็บไซต์ขายสินค้าและบริการ ·        ปรับปรุงกิจการ ด้วยการพัฒนาระบบที่เปิดโอกาสห้ลูกค้าสามารถเลือกว่าจะชำระค่าบริการแบบเต็มจำนวน หรือแบบผ่อน ·        จัดรายการส่งเสริมการขาย ได้ร่วมกับพันธมิตรในธุรกิจโทรคมนาคม

3 บริการ K-Contact Center

การดำเนินการที่สำคัญในปี2556

K-Contact Center

·        เพิ่มประสิทธิภาพและรวดเร็วในการบริการ โดยพัฒนาระบบและกระบวนการในการตอบคำถามจาก Social Media และเว็บไซต์ต่างๆ ให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ·        จัดตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียน ”สายด่วยร้องเรียน” เพื่อเพิ่มช่องทางพิเศษให้ธนาคารสามารถดูแลลูกค้าได้อย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น ·        เพิ่มบริการที่ปรึกษา อาทิ บริการ”Virtual Branch Outbound Advisory”เป็นการโทรแนะนำการลงทุนเมื่อมีสถานการณ์ที่เหมาะสม โดยทีมงานผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ

   4)โปรโมชั่น

รับสิทธิพิเศษอื่นๆ  เติมเต็มทุกความต้องการ ทั้งด้านการออมทรัพย์ การลงทุน ประกันชีวิต รวมถึงการให้บริการแจ้งรายการเดินบัญชีเงินฝากผ่าน SMS และผลิตภัณฑ์อีกมากมาย เพื่อให้ชีวิตคุณสะดวกสบายขึ้น ทุกที่ ทุกเวลา จากสิทธิประโยชน์ที่ครอบคลุมและสามารถตอบสนองความต้องการต่างๆ ได้อย่างลงตัว

คลิก

การส่งเสริมการตลาดของธนาคาร

ธนาคารกสิกรไทยได้มีการจัดทำโฆษณาไม่ว่าเป็น ภาพยนตร์โฆษณา สื่อหนังสือพิมพ์  โซเชียลเน็ตเวิร์ค เช่น รายการโทรทัศน์ เรียลลิตี้ “SME มีตังค์เยอะ” เพื่อส่งเสริมองค์ความรู้และเพื่อให้ลูกค้าดินใจได้ง่ายขึ้น

คลิก

CSR การดำเนินงานด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน 

      ธนาคารกสิกรไทย เป็นกลุ่มธุรกิจทางการเงินที่ดำเนินธุรกิจภายใต้หลักจริยธรรม การกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อนำไปสู่การพัฒนาองค์กรที่ยั่งยืน โปร่งใส โดยได้ประกาศเจตนารมณ์ “หัวใจสีเขียว”ที่มุ่งเน้นการดำเนินงานด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่ประกอบด้วย

1.การดำเนินงานด้านธุรกิจ

   ธนาคารให้ความสำคัญกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์และการให้การบริการที่ดีเยี่ยม มีมาตรฐานและคุณภาพ สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า อย่างมีประสิทธิภาพพร้อมคำนึกถึงกลุ่มธุรกิจทางการเงินชั้นนำของประเทศ ที่ต้องช่วยเสริมสร้าง รักษา และมีส่วนร่วมพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศห้เติบโตแบบยั่งยืน จึงได้กำหนดแนวทางการดำเนินงานตั้งแต่การสร้างนโยบาย รวมทั้งการพัฒนามาตรฐานและกระบวนการทำงานภายในองค์กร การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม และมีส่วนช่วยพัฒนากระบวนการทำงานของลูกค้าขเพื่อความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพต่อการประกอบธุรกิจของลูกค้า การเข้าไปมีส่วนร่วมในการยกระดับความรู้ความสามารถทักษะการบริหารจัดการการวางแผนทางการเงินให้แก่ลูกค้า เพื่อสร้างศักยภาพการเป็นผู้ประกอบการที่มีคุณภาพส่งผลต่อการพัฒนาศักยภาพทางการแข่งขันเช่นกัน การดำเนินธุกิจและการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ประกอบด้วย

1.   การสร้างวัฒนธรรมเครดิต และนโยบายเครดิตที่เข้มแข็ง
2.   กระบวนการพัฒนา ปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการ
3.   การเป็นผู้นำอันดับหนึ่งด้านสินเชื่อโครงการไฟฟ้าพลังงานทดแทนและสินเชื่อเพื่อการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
4.   การให้ความรู้ทางการเงิน
5.   การให้บริการทางการเงินที่ทุกคนเข้าถึงได้
6.   การให้คำปรึกษาทางการเงินส่วนส่วนบุคคล

  2.การดำเนินงานด้านทรัพยากรบุคคล

ธนาคารได้กำหนดนโยบายการบริหารทรัพยากรบุคคล ภายใต้แนวคืดของการเสริมสร้างโอกาสและศักยภาพให้แก่พนักงานเพื่อการเป็นเลิศในวิชาชีพ และให้สอดคล้องกับความต้องการทางธุรกิจ เพื่อนำไปสู่การเป็นสถาบันการเงินที่ยั่งยืน และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธ์ภาพ ภายใต้การบริหารแรงงานสัมพันธ์ ค่าตอบแทนและสวัสดิการ และการพัฒนาบุคคลากร ดังนี้

1.มุ่งสรรหาพนักงานที่มีคุณภาพ และพัฒนาทักษะความสามารถเพื่อการปฎิบัติงานและการเติบโตนวิชาชีพ

2.ส่งเสริมให้พนักงานสร้างผลงาน มีแรงจูงใจ มีส่วนร่วมและมีพันธะสัญญากับองค์กร

3.จัดโครงสร้างและส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรให้มุ่งเน้นการทำงานเป็นทีม

4.มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และดำเนินงานร่วมกันภายใต้แบรนด์ธนาคารกสิกรไทย

  3.การดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม

     ธนาคารให้ความสำคัญเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง และการเป็นส่วนหนึ่งที่จะร่วมดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกันโดยแสดงออกในรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็นอาคารเขียวเพื่อสิ่งแวดล้อมของธนาคาร ซึ่งถูกออกแบบภายใต้แนวคิด “อนุรักษ์พลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม” นอกจากนี้ธนาคารได้จัดทำโครงการ K-Coet Excellence ซึ่งได้ระดมความคิดจากทุกหน่วยงานเพื่อนำเสนอแนวทางลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งนี้ ธนาคารได้มุ่งเน้นการดำเนินงานด้านต่างๆประกอบด้วย

        1.การจัดสร้างศูนย์ความรู้ซึ่งเป็นอาคารอนุรักษ์พลังงาน และสิ่งแวดล้อมยอดเยี่ยม

        2.การบริหารการจัดการพลังงาน และทรัพยากรน้ำ

        3.การดำเนินงานที่คำนึงถึงผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน

  4.การดำเนินงานด้านสังคม

ธนาคารดำเนินงานธุรกิจภายใต้เจตนารมณ์การเป็นองค์กรที่ยึดมั่งจริยธรรม การกำกับกิจการที่ดี และการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมมาตลอด เพื่อแสดงถึงความตั้งใจในการเป็นสถาบันการเงินที่แข็งแกร่งและมีความรับผิดชอบต่องสิ่งแวดล้อมและสังคมสูงสุด โดยที่ผ่านมาได้ดำเนินโครงการต่างๆ ได้แก่ โครงการเพาะพันธุ์ปัญญา โครงการ K-Expect เพิ่มพูนปัญญา โครงการ Young Financal star เป็นต้น

CRM การบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า

• การจำวันเกิด
• มีของขวัญให้ตามเทศกาลต่างๆ
• งานแต่งงาน สำหรับลูกค้ากลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ เช่น การมอบช่อดอกไม้

การแสดงละครกลุ่ม"K Now"

วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2557

คลิกชมการแสดง

ภาพบรรยากาศในการแสดง

อัตราดอกเบี้ย KBANK

อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก  >> คลิก

อัตราดอกเบี้ยเงินห้สินเชื่อ  >> คลิก

ดอกเบี้ย คือ

          ผลตอบแทนที่ผู้ฝากเงินได้รับจากการฝากเงินไว้กับสถาบันการเงิน หรือที่เรียกว่า ดอกเบี้ยเงินฝากผลตอบแทนที่ผู้ให้สินเชื่อได้รับจากผู้ขอสินเชื่อ ซึ่งในกรณีนี้จะหมายถึง สถาบันการเงิน และผู้ประกอบธุรกิจการเงินที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non-bank) หรือที่เรียกว่า ดอกเบี้ยเงินกู้    ผลตอบแทนอาจอยู่ในรูปของตัวเงิน ทรัพย์สิน หรือสิ่งของต่าง ๆ ที่คิดคำนวณเป็นเงินได้ เช่น ธนาคารพาณิชย์แจกของสมนาคุณให้กับลูกค้า อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้า หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เป็นต้น เพื่อจูงใจให้ฝากเงินไว้กับธนาคาร ดังนั้น การคำนวณดอกเบี้ยที่ได้รับแท้จริงต้องรวมมูลค่าของสมนาคุณด้วย

อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก คือ

          อัตราดอกเบี้ยร้อยละต่อปีที่สถาบันการเงินจ่ายให้กับผู้ฝากเงิน เพื่อเป็นค่าตอบแทนที่ผู้ฝากนำเงินมาเปิดบัญชี เงินฝากไว้กับสถาบันการเงิน อัตราดอกเบี้ยเงินฝากมีหลายประเภท หลายอัตรา โดยขึ้นกับระยะเวลาการฝากเงินและเงื่อนไขการถอนเงิน เช่น อัตราดอกเบี้ยของบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่สามารถถอนเงินได้ตลอดเวลา จึงต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน เป็นต้น ทั้งนี้ เมื่อท่านเลือกจะบริหารเงินโดยการฝากเงิน ควรเลือกประเภทการฝากเงินที่เหมาะสมกับรูปแบบการใช้ชีวิต (Lifestyle) ของท่าน เพื่อที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการฝากเงินนั้น

อัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อ (ดอกเบี้ยอ้างอิง) คือ

          อัตราดอกเบี้ยลอยตัวที่ธนาคารพาณิชย์ใช้อ้างอิงในการเรียกเก็บดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อจากลูกค้า ได้แก่ 

          MLR (Minimum Loan Rate) หมายถึง อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา เช่น มีประวัติการเงินที่ดี มีหลักทรัพย์ค้ำประกันอย่างเพียงพอ โดยส่วนใหญ่ใช้กับเงินกู้ระยะยาวที่มีกำหนดระยะเวลาที่แน่นอน เช่น สินเชื่อเพื่อการประกอบธุรกิจ

          MOR (Minimum Overdraft Rate) หมายถึง อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินเบิกเกินบัญชี

          MRR (Minimum Retail Rate) หมายถึง อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บจากลูกค้ารายย่อยชั้นดี เช่น สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อบัตรเครดิต เป็นต้น

          CPR (Consumer Product Rate) หมายถึง อัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำสำหรับสินเชื่อบุคคลที่ธนาคารประกาศกำหนด ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัวและอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามที่ธนาคารประกาศ หากอัตราดอกเบี้ยและวิธีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยในสัญญานี้ขัดต่อกฎหมาย ประกาศ กฎกระทรวง หรือระเบียบที่เกี่ยวข้องให้ถือเอาอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่ธนาคารอาจเรียกเอาจากผู้กู้ได้ในอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่กฎหมายประกาศ กฎกระทรวง หรือระเบียบที่เกี่ยวข้องอนุญาตเป็นอัตราบังคับใช้ตามสัญญาข้อนี้ ณ วันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2549 อัตราดอกเบี้ย CPR = 18%  ต่อปี

ที่มา : http://www.kasikornbank.com/

โครงสร้างของแหล่งที่มาและใช้ไป

ของธนาคารกสิกรไทย

ที่มา : งบการเงินระหว่างกาลธนาคารกสิกรไทย 

 

โครงสร้างองค์กร ( กรณีศึกษา )

รูปแบบการจัดองค์การของธนาคารกสิกรไทย จำกัด( มหาชน )

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) มีรูปแบบการจัดองค์การแบบแมททริกซ์ (Matrix Structure) เนื่องจาก ธนาคารเป็นองค์กรที่มีขนาดใหญ่ และมีการจัดหน่วยงานการทำงานที่ซับซ้อนโดยธนาคารดำเนินโครงสร้างการกำกับดูแลกิจการ ซึ่งรวมถึงบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบ องค์ประกอบ และวาระการดำรงตำแหน่งของ คณะกรรมการธนาคาร ที่ปรึกษาคณะกรรมการธนาคารที่ปรึกษากฎหมาย คณะกรรมการอิสระ คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการ คณะกรรมการตรวจสอบ คณะกรรมการทรัพยากรบุคคลและกำหนดอัตราค่าตอบแทน คณะกรรมการบริหารความเสี่ยงองค์การ การประชุมของคณะกรรมการธนาคาร การสรรหาและเลือกตั้งกรรมการ การปฏิบัติต่อกรรมการใหม่ การดำรงตำแหน่งของกรรมการ  โดยโครงสร้างองค์การแบบแมททริกซ์นั้น ทำให้ผู้บริหารระดับสูงไม่ต้องลงไปยุ่งเกี่ยวกับการตัดสินใจประจำวัน จึงทำให้ผู้บริหารมีเวลามากขึ้นในการบริหารกลยุทย์เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายขององค์การ

ลักษณะการจัดองค์การของธนาคารกสิกรไทย จำกัด( มหาชน )

1.Organization Chat รวมของทั้งระบบ

ในการกำกับดูแลกิจการของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) มีดังต่อไปนี้

- คณะกรรมการธนาคาร

คณะกรรมการธนาคารมีความรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้นทั้งหมดของธนาคาร กรรมการแต่ละคนเป็นตัวแทนของผู้ถือหุ้นทั้งหมด และมีส่วนร่วมในการกำกับดูแลกิจการของธนาคาร ด้วยความเป็นอิสระและเป็นกลาง เพื่อประโยชน์ของผู้ถือหุ้น และต่อผู้มีส่วนได้เสียอื่น คณะกรรมการธนาคารมีบทบาทในการกำกับดูแลการบริหารงานของธนาคาร เพื่อให้มั่นใจว่าผู้บริหารได้มุ่งมั่นสู่การมีผลการดำเนินงานที่เป็นเลิศอย่างต่อเนื่อง โดยคำนึงถึงสภาวะความเสี่ยง 

คณะกรรมการธนาคารประกอบด้วยกรรมการ 17 คน ซึ่งประกอบด้วย

• คณะกรรมการที่เป็นผู้บริหาร 3 คน

• คณะกรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร 5 คน

• คณะกรรมการอิสระ 9 คน 

ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 53 ของกรรมการทั้งคณะ

มีรายชื่อดังนี้

1. นายบัณฑูร ล่ำซำ                                                            กรรมการที่เป็นผู้บริหาร
2. นายสมชาย บุลสุข                                                          กรรมการอิสระ
3. นายกฤษฎา ล่ำซำ                                                          กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร
4. นายปรีดี ดาวฉาย                                                           กรรมการที่เป็นผู้บริหาร
5. นายธีรนันท์ ศรีหงส์                                                        กรรมการที่เป็นผู้บริหาร
6. นางสุจิตพรรณ ล่ำซำ                                                     กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร
7. ศาสตราจารย์กิตติคุณ    คุณหญิงสุชาดา กีระนันทน์      กรรมการอิสระ
8. ศาสตราจารย์ ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์                                 กรรมการอิสระ
9. ดร.อภิชัย จันทรเสน                                                        กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร
10. ศาสตราจารย์ ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์                                 กรรมการอิสระ
11. นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร                                       กรรมการอิสระ
12. น.ต.พญ. นลินี ไพบูลย์                                                  กรรมการอิสระ
13. นายสราวุฒิ อยู่วิทยา                                                    กรรมการอิสระ
14. ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์                                              กรรมการอิสระ
15. นายกลินท์ สารสิน                                                        กรรมการอิสระ
16. นายสมเกียรติ ศิริชาติไชย                                            กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร
17. นายรพี สุจริตกุล                                                           กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร

- คณะกรรมการอิสระ

มีบทบาทในการดูแลรักษาผลประโยชน์ของธนาคารโดยรวมเพื่อให้ผู้ถือหุ้นทุกรายได้รับผลประโยชน์อย่างเท่าเทียมกัน รวมทั้งถ่วงดุลระหว่างคณะกรรมการและฝ่ายจัดการ และคุ้มครองสิทธิของผู้ถือหุ้น โดยการเสนอแนะและแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่สำคัญและเป็นประโยชน์ต่อธนาคาร นักลงทุน และผู้ถือหุ้นรายย่อย อย่างอิสระ โปร่งใส โดยไม่มีส่วนได้เสียใดๆ เพื่อให้การทำงานของคณะกรรมการธนาคารมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น ซึ่งรวมถึงการแสดงความเห็น หรือให้ข้อสังเกต หรือซักถามในที่ประชุมคณะกรรมการ โดยไม่ให้อิทธิพลใดๆ อยู่เหนือการตัดสินใจที่เป็นอิสระ รวมทั้ง ให้คำแนะนำ หรือให้ความเห็นในเรื่องที่สำคัญที่อยู่ในอำนาจของคณะกรรมการธนาคาร อาทิ โครงการลงทุนขนาดใหญ่ นโยบายเครดิต ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ และธุรกรรมสินเชื่อตามอำนาจที่ธนาคารกำหนดและเสนอแนะวาระการประชุมกรณีที่เห็นว่ามีเรื่องที่สำคัญที่คณะกรรมการควรพิจารณา และยังไม่ได้รับการบรรจุไว้ในวาระการประชุมคณะกรรมการธนาคาร 

คณะกรรมการอิสระมีทั้งหมด 6 คนมีรายชื่อดังนี้ 

1.นายไพโรจน์         ล่ำซำ

2.นายศุกรีย์              แก้วเจริญ

3.นางเอลิซาเบธ      แซม

4.นายฮิโรชิ              โอตะ

5.นายวิลเลียม มาร์ค เอวานส์

6.ดร.เถียน                ซู่หนิง

- คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการ

ประกอบด้วย กรรมการที่ได้รับแต่งตั้งจากคณะกรรมการธนาคาร มีหน้าที่รับผิดชอบในการกำกับดูแล ให้การดำเนินกิจการของธนาคารและการปฏิบัติงานของคณะกรรมการธนาคาร คณะกรรมการชุดต่าง ๆ ที่ธนาคารจัดตั้งขึ้น  ผู้บริหาร  พนักงาน ให้เป็นไปตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี สอดคล้องกับข้อกำหนดกฎหมาย นโยบายของหน่วยราชการ สถาบันที่กำกับดูแลธนาคารที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเป็นไปตามนโยบายธนาคาร

 คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการมีทั้งหมด 10 คน มีรายชื่อดังนี้ 

1.	นายสมชาย บุลสุข	ประธานกรรมการอิสระ
2.	ศ.กิตติคุณ คุณหญิงสุชาดา กีระนันทน์	กรรมการอิสระ
3.	ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์	กรรมการอิสระ
4.	ศ.ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์	กรรมการอิสระ
5.	นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร	กรรมการอิสระ
6.	น.ต. พญ.นลินี ไพบูลย์	กรรมการอิสระ
7.	นายสราวุฒิ  อยู่วิทยา	กรรมการอิสระ
8.	ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์	กรรมการอิสระ
9.	นายกลินท์ สารสิน	กรรมการอิสระ
10.	นางพันธ์ทิพย์ สุรทิณฑ์	กรรมการอิสระ

- คณะกรรมการตรวจสอบ

เพื่อทำหน้าที่ในในการสอบทานรายงานทางการเงินประจำไตรมาสงวดหกเดือนและประจำปี และสอดส่องดูแลระบบการบริหารความเสี่ยง ระบบการควบคุมภายใน กระบวนการตรวจสอบ และการปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องและการปฏิบัติตามหลักจรรยาบรรณของธนาคาร 

คณะกรรมการตรวจสอบมีทั้งหมด 3 คน มีรายชื่อดังนี้

	1.ศ.กิตติคุณ คุณหญิงสุชาดา กีระนันทน์	ประธานกรรมการ
	2.นายสมชาย บุลสุข	กรรมการ
	3.ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์	กรรมการ

- คณะกรรมการทรัพยากรบุคคลและกำหนดอัตราค่าตอบแทน

โดยรับผิดชอบในการเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการธนาคารเกี่ยวกับอัตราค่าตอบแทนของประธานกรรมการและกรรมการธนาคาร(โดยขอรับความเห็นชอบจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในภายหลัง)  นอกจากนี้ คณะกรรมการทรัพยากรบุคคลและกำหนดอัตราค่าตอบแทนมีหน้าที่จัดทำนโยบายอัตราค่าตอบแทนและกำหนดเงื่อนไขในการว่าจ้างประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กรรมการผู้จัดการ และผู้บริหารระดับสูงของธนาคาร  

คณะกรรมการทรัพยากรบุคคลและกำหนดอัตราค่าตอบแทนมีทั้งหมด 5 คน มีรายชื่อดังนี้

1.	นายสมชาย บุลสุข	ประธานกรรมการ
2.	ศ.ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์	กรรมการ
3.	ดร.อภิชัย จันทรเสน	กรรมการ
4.	นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร	กรรมการ
5.	นายกลินท์ สารสิน	กรรมการ

- คณะกรรมการบริหารความเสี่ยงองค์การ

มีหน้าที่ช่วยคณะกรรมการธนาคารสอดส่องดูแลกระบวนการบริหารความเสี่ยงโดยรวมให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม คณะกรรมการบริหารความเสี่ยงองค์การจะต้องมั่นใจว่า กลุ่มธุรกิจทางการเงิน ธนาคารกสิกรไทย (“กลุ่มธุรกิจทางการเงิน”) มีแผนการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิผลและครอบคลุมความเสี่ยงทั้งหมด รวมถึง การกำหนด ประเมิน ลดความเสี่ยง ติดตามความเสี่ยง และรายงานความเสี่ยงให้คณะกรรมการธนาคารได้รับทราบ

คณะกรรมการบริหารความเสี่ยงองค์การมีทั้งหมด 8 คน มีรายชื่อดังนี้

1.	นายสมเกียรติ ศิริชาติไชย	ประธาน
2.	นายปรีดี ดาวฉาย	สมาชิก
3.	นายธีรนันท์ ศรีหงส์	สมาชิก
4.	นางสุจิตพรรณ ล่ำซำ	สมาชิก
5.	นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย	สมาชิก
6.	นายธิติ ตันติกุลานันท์	สมาชิก
7.	นายสมคิด จิรานันตรัตน์	สมาชิก
8.	นายวีรวัฒน์ ปัณฑวังกูร	สมาชิก

2. Organization Chart ของสายงานต่างๆ

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) มีรูปแบบการจัดผังองค์การ โดยแบ่งเป็นสายงานต่าง ๆ ทั้งหมด 15 สายงาน ได้แก่

1.สายงานเลขาธิการองค์การ

รับผิดชอบการดูแลและประสานงานกับผู้ถือหุ้นและนักลงทุนรวมทั้งส่งเสริมคณะกรรมการและผู้บริหารของเครือธนาคารกสิกรไทยในการปฏิบัติหน้าที่และกำกับให้สอดคล้องกับข้อกำหนดและหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี 

2.สายงานบริหารยุทธศาสตร์องค์การ

รับผิดชอบการกำหนดทิศทางและยุทธศาสตร์โดยรวมของธนาคาร รวมทั้งสร้างเสริมภาพลักษณ์และการประสานระหว่างบริษัทการเงินในเครือธนาคารกสิกรไทยให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

3.สายงานกำกับและตรวจสอบ                                    

กำกับและตรวจสอบการทำธุรกิจ และการดำเนินงานของธนาคาร เพื่อให้มีความถูกต้องเหมาะสม ภายใต้ข้อกำหนดของธนาคาร และหน่วยงานทางราชการ รวมถึงจรรยาบรรณในการประกอบวิชาชีพของธนาคาร
4.สายงานธุรกิจลูกค้าบรรษัท
ทำธุรกิจ และดูแลความสัมพันธ์ลูกค้ากับลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่ให้บรรลุเป้าหมายของธนาคาร

5.สายงานผลิตภัณฑ์บรรษัทและผู้ประกอบการ

พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริหารช่องทางการขายและให้บริการสำหรับลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ขนาดกลาง และลูกค้าผู้ประกอบการ          

6.สายงานธุรกิจลูกค้าผู้ประกอบการ
ทำธุรกิจและดูแลความสัมพันธ์ลูกค้าธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์และให้บริการทางการเงินตามความต้องการของลูกค้าเพื่อสร้างกำไรที่ยั่งยืน และสามารถแข่งขันได้ในตลาดอย่างมีคุณภาพภายใต้ความเสี่ยงที่เหมาะสม

7.สายงานธุรกิจลูกค้าบุคคลและเครือข่ายบริการ 
ทำธุรกิจและดูแลความสัมพันธ์ลูกค้ากับลูกค้าธุรกิจรายย่อยและลูกค้าส่วนบุคคลให้บรรลุเป้าหมายของธนาคาร      

8.สายงานธุรกิจตลาดทุน
ดูแลพัฒนาผลิตภัณฑ์และให้บริการธุรกิจตลาดทุน ซึ่งครอบคลุมธุรกรรมการลงทุน การระดมทุน และการให้คำปรึกษา ด้านการบริหารความเสี่ยงทางการเงิน เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไร และเป็นผู้นำในเรื่องผลิตภัณฑ์ธุรกิจตลาดทุน

9.สายงานวาณิชธนกิจ

รับผิดชอบให้คำปรึกษาในการวางแผนการปรับโครงสร้างและระดมเงินทุนรวมทั้งการบริหารความเสี่ยงสำหรับกลุ่มลูกค้าบรรษัทขนาดใหญ่ผ่านตลาดทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ

10.สายงานธุรกิจข้ามประเทศ
เพื่อรวมศูนย์การห้บริการลูกค้าคนไทยและต่างประเทศที่ทำธุรกิจข้ามชาติไว้ด้วยกันเป็นการรองรับกระแสการค้า การลงทุนที่จะมีมากขึ้นหลังจากประเทศในอาเซียน 10 ประเทสรวมกลุ่มเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558

11.สายงานการให้บริการลูกค้า

เพื่อสนับสนุนกระบวนการธุรกิจผลิตภัทฑ์เครดิตของสายงานธุรกิจในความรับผิดชอบให้สามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ / บริการแก่ลูกค้าได้ตามเวลาต้นทุน และคุณภาพที่กำหนดภายใต้ความเสี่ยงที่ยอมรับได้

12.สายงานการบริหารความเสี่ยงองค์การ

กำหนดนโยบาย และควบคุมกระบวนการทำงานด้านเครดิต ตลอดจนการแก้ไขหนี้ และ/หรือปรับโครงสร้างหนี้ให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด ภายใต้ความเสี่ยงที่เหมาะสม

13.สายงานกานเงินและควบคุม

บริหารความเสี่ยงและการเงินทั้งหมดของธนาคารให้เป็นไปตามเป้าหมายนโยบายและข้อกำหนดของธนาคาร และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการบริหารการจัดการข้อมูลด้านบัญชีและการเงิน เพื่อสนับสนุนการบริหารงานของธนาคาร

14.สายงานระบบ

จัดหาและพัฒนาระบบงานและกระบวนการทำงานทั้งหมดของธนาคารอย่างต่อเนื่องทั้งที่เป็นระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และงานสนับสนุนอื่น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติงานของหน่วยงานต่างๆ ให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด

15.สายงานทรัพยากรบุคคล

บริหารและประสานงานด้านทรัพยากรบุคคล เพื่อจัดสรร พัฒนา และรักษาไว้ซึ่งทรัพยากรบุคคลตามนโยบายและเป้าหมายของธนาคารรวมถึงการเสริมสร้างสัมพันธภาพอันดีระหว่างพนักงานกับองค์การ

3. Organization Chart ของฝ่ายต่างๆในสำนักงานใหญ่

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เมื่อมีการแบ่งงานตามสายงานต่างๆออกแล้ว ในแต่ละสายงานก็จะมีฝ่ายต่างๆในความดูแลและบริหาร ซึ่งจะอยู่ภายใต้กรอบแนวทางการดำเนินงานตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ โดยกำหนดฝ่ายงานที่มีลักษณะงานเดียวกัน เช่น

            สายงานการเงินและควบคุม

·       ฝ่ายบริหารการเงิน

·       ฝ่ายวางแผนการเงิน

·       ฝ่ายจัดการบัญชี

สายกำกับและตรวจสอบ

·       ฝ่ายกำกับการปฏิบัติงาน

·       ฝ่ายตรวจสอบ

·       ฝ่ายทบทวนสินทรัพย์เสี่ยง

            สายงานธุรกิจลูกค้าบรรษัท

·       ฝ่ายบริหารธุรกิจลูกค้าบรรษัท

·       ฝ่ายสหบรรษัทธนกิจ

·       ฝ่ายบรรษัทธนกิจ

สายงานทรัพยากรมนุษย์

·       ฝ่ายบริหารงานทรัพยากรมนุษย์

·       ฝ่ายพนักงานสัมพันธ์

·       ฝ่ายพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เป็นต้น

4. Organization Chart ของสำนักงานเขต และสาขา

ธนาคารกสิกรไทยมีสาขาทั้งหมด 975 สาขา โดยแบ่งเป็น 

            สาขาและสำนักงานย่อยในประเทศ                                                          965 สาขา

            

            สาขาในประเทศ                                                                                           869 สาขา

        -        เขตกรุงเทพมหานคร                                                                   291 สาขา

        -        ส่วนภูมิภาค                                                                                 578 สาขา

สำนักงานย่อยในประเทศ                                                                                96 สาขา

        -      เขตกรุงเทพมหานคร                                                                       14 สาขา

        -      ส่วนภูมิภาค                                                                                     82 สาขา

      

            สาขาและสำนักงานผู้แทนในต่างประเทศ                                                   10 สาขา

            สาขาในต่างประเทศ                                                                                        5 สาขา

                 -  สาขาลอสแองจอลิส
                 -  สาขาฮ่องกง
                 -  สาขาหมู่เกาะเคย์แมน
                 -   สาขาเซินเจิ้น
                 -  สาขาเฉิงตู

          สำนักงานผู้แทนในต่างประเทศ                                                                        5 สาขา

                 -  สำนักงานผู้แทนนครเซี่ยงไฮ้
                 -  สำนักงานผู้แทนกรุงปักกิ่ง
                 -  สำนักงานผู้แทนเมืองคุนหมิง
                 -  สำนักงานผู้แทนกรุงโตเกียว
                 -  สำนักงานผู้แทนกรุงย่างกุ้ง

  สาขาของธนาคารจะได้รับมอบอำนาจจากสำนักงานใหญ่ในการบริหารดูแล และสนับสนุนให้สามารถทำธุรกิจแข่งขันกับธนาคารอื่นได้ โดยในแต่ละสาขาจะมีผู้จัดการสาขาเป็นผู้ควบคุมดูแลกิจการในการดำเนินการให้บรรลุตามเป้าหมาย

ที่มา : รายงานประจำปี 2556 , เว็บไซต์ธนาคารกสิกรไทย

http://www.kasikornbank.com/TH/AboutUs/Pages/OrganizationChart.aspx

http://www.kasikornbank.com/TH/Investors/CorporateGovernance/StatementofCorporateGovernancePrinciples/Pages/Introduction.aspx

เวทีเฟ้นหาสุดยอดคนรุ่นใหม่ บนเส้นทางการเงิน

            สำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 3 ถึงระดับปริญญาโท ในทุกคณะ ทุกสาขาวิชา อายุไม่เกิน 25 ปี หากคุณมีความรู้ มุ่งมั่น  ตั้งใจ พร้อมก้าวสู่เส้นทางของนักวางแผนการเงินและการลงทุน ขอต้อนรับเข้าสู่เวทีสำหรับคนรุ่นใหม่... เข้มข้นกับความรู้ทางการเงินพร้อมเปลี่ยนคุณเป็นมืออาชีพ ชิงรางวัลรวมกว่า 5,000,000 บาท

วัตถุประสงค์โครงการ

          ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และหน่วยงานต่างๆ ในตลาดทุน จัดโครงการ Young Financial Star Competition 2014 ขึ้น

          1. เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนรุ่นใหม่ที่สนใจเรื่องการวางแผนการเงิน การลงทุน มีเวทีในการพัฒนาและฝึกฝนความสามารถของตนเอง ก้าวสู่การเป็นนักการเงินรุ่นใหม่ที่มีทั้งความรู้ด้านการเงิน ตลอดจนทักษะในการวิเคราะห์และการให้บริการลูกค้า

         โดยดำเนินการจัดการแข่งขันต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 11 และในปีนี้จะมีการเฟ้นหาที่สุดของดาวแห่งถนนการเงินใน 5 รางวัล ดังนี้

เช็ครายชื่อ รหัสประจำตัว เลขที่นั่งสอบ ก่อนเข้าห้องสอบค่ะ/ครับ...............

สอบเสร็จแล้ว...เย้...^_^ งั้นเก็บภาพที่ระลึกหน่อยน่ะค่ะ/ครับ.....

 ติดตามข่าวกิจกรรมโครงการ YFS  >>คลิกที่นี่ 

เที่่ยว ชม งานมหกรรมการเงิน Money expo 2014 

        มหกรรมการเงิน Money expo 2014 ตลาดนัดทางการเงินการลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และภูมิภาค จัดโดย  วารสารการเงินธนาคารนิตยสารในเครือ บริษัท มีเดีย แอสโซซิเอตเต็ด จำกัด เป้าหมายหลักของงานมหกรรมการเงิน MONEY EXPO คือการเป็นสื่อกลางระหว่าง ธนาคารรัฐ ธนาคารพาณิชย์เอกชน สถาบันการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บริษัทประกันชีวิต บริษัทประกันวินาศภัย บริษัทประกันสุขภาพ บริษัทผู้ค้าทองคำ/โกลด์ฟิวเจอร์ส บริษัทเช่าซื้อรถยนต์ และหน่วยงานของภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการเงินการลงทุน อาทิ 

        ธนาคารแห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กรมสรรพากร สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ฯลฯ เป็นต้น กับ ประชาชน ผู้บริโภคที่เป็นลูกค้าเจ้าของธุรกิจ และนักลงทุน เป็นต้น ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน บริการทางการเงิน การลงทุน และแหล่งข้อมูลด้านการลงทุนอย่างเท่าเทียมกันในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)

KBank’s Digital Banking Connections for Life Solutions
กสิกรไทยเชื่อมโลกดิจิตอลสู่ชีวิตล้ำสมัย ทางเลือกที่ทำให้คุณยิ้มได้กับชีวิต

ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่น่าสนใจของธนาคารกสิกรไทย

       สินเชื่อผู้ประกอบการ

SME  ฝิน ฝุด ฝุด ฝากตังค์ โอนตังค์

ได้เงินกู้เพิ่งสูงสุด 30 ล้าน ไม่เพิ่มหลักประกัน

แค่เดินบัญชีกับธนาคารหลัก ได้กู้เงินเพิ่มเกินคาด ไม่ต้องเพิ่มหลักประกัน

จุดเด่น

       พิเศษ เฉพาะลูกค้าที่เดินบัญชีกับธนาคารกสิกรไทยเป็นหลัก

       ยิ่งเดินบัญชีมาก ยิ่งได้วงเงินมาก

       วงเงินสูงสุด 2 เท่าของมูลค่าหลักประกัน

รายละเอียดผลิตภัณ์

ลักษณะผลิตภัณ์	รายละเอียด
อัตราดอกเบี้ย	สูงสุด MRR+2.50%
ระยะเวลาวงเงิน	วงเงินกู้ระยะยาว(LON) : สูงสุด 7 ปี        วงเงินอื่นๆ : ตามที่ธนาคารกำหนด
วงเงินสินเชื่อ	วงเงินสูงสุด 30 ล้านบาท
ประเภทวงเงิน	วงเงินกู้ระยะยาว (L/N)          วงเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชี (O/D)          ตั๋วสัญญาใช้เงิน (P/N)
หลักประกัน	สถานประกอบการ / บ้านพักอาศัย / ที่ดินเปล่า

Ø อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมเป็นไปตามประกาศของธนาคาร

Ø สำหรับลูกค้าที่เดินบัญชีกับธนาคารเป็นหลัก และเป็นไปตามเงือนไขที่ธนาคารกำหนด

โปรโมชั่นพิเศษเมื่อสมัครสินเชื่อธุรกิจเฉพาะในงานเท่านั้น

ฟรีดอก   ปลอดต้น   1 เดือน

ฟรี!! ค่าเครื่อง  K-PowerP@y  (mPOS) มูลค่า 2,500 บาท

เมื่อสมัครสินเชื่อเพื่อธุรกิจและสมัครติดตั้งเครื่อง K-PowerP@y  (mPOS)

เงื่อนไขรายการส่งเสริมการขาย :

1. บมล.ธนาคารกสิกรไทย ขอสงวนสิทธิรายการส่งเสริการขาย “มหกรรมการเงินครั้งที่ 14 กรุงเทพฯ”  สำหรับลูกค้าที่เข้าเงื่อนไขดังนี้ 1.1 เป็นลูกค้าผู้ประกอบการขนาดย่อย ขนาดเล็ก และขนาดกลาง ตั้งนิติบุคคลหรือบุคคลธรรมดาที่ลงทะเบียนในงาน“มหกรรมการเงินครั้งที่ 14 กรุงเทพฯ”  1.2 ลูกค้าสมัครสินเชื่อเพื่อธุรกิจและสินเชื่อโครงการพิเศษ (SMEs Special Program) สำหรับลูกค้าผู้ประกอบการทุกโครงการเฉพาะวงเงินสินเชื่อระยะยาว (Loan)  วงเงินประกันคุ้มครองวงเงินสินเชื่อธุรกิจ (Top Up Loan) และวงเงินประกันภัยคุ้มครองภัยเพื่อธุรกิจ (SME Top Up Loan For Insurance) เท่านั้น 1.3 ลูกค้าต้องลงทะเบียนรับสิทธิในงาน
2. ระยะเวลารายการส่งเสริมการขาย ลูกค้าจะต้องลงทะเบียนรับสิทธิภายในงานมหกรรมการเงิน ครั้งที่ 14 วันที่ 8 – 11 พฤษภาคา เท่านั้น
3. สิทธิพิเศษที่ลูกค้าจะได้รับ คือ ฟรีดอกเบี้ยและไม่ต้องจ่ายเงินต้นเป็นระยะเวลา 1 งวดแรก ของวงเงินที่ผ่านหลักเกณฑ์ตามข้อ 1.  ตัวอย่างเช่น วงเงินกู้มีระยะเวลาการผ่อนชำระ 60 งวด จะแบ่งเป็นไม่คิดดอกเบี้ย 1 งวดแรกและยังไม่ต้องจ่ายเงินต้นในงวดแรกหลังจากนั้นอัตราดอกเบี้ยปกติ 59 งวด
4. การอนุมัติสินเชื่อในแต่ละผลิตภัณฑ์ (product Program) ที่ร่วมรายการส่งเสริมการขายเป็นไปตามหลักเกณฑ์พิจารณาของธนาคาร
5. กรณีลูกค้าสมัครสินเชื่อเพื่อธุรกิจและสมัคร K-PowerP@y  (mPOS) ภายในงานและส่งเอกสารการสมัครครบถ้วนสมบูรณ์จะได้รับเครื่อง K-PowerP@y  (mPOS) มูลค่า 2,500 บาท ฟรี โดยธนาคารจะจัดส่งให้ลูกค้าทางไปรษณีย์ ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2557
6. ธนาคารขอสงวนสิทธ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในรายการส่งเสริมการขายโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าและคำตัดสินของธนาคารถือเป็นที่สิ้นสุด

บรรยากาศภายในงาน....

ติดตามรายละเอียด :

http://www.moneyexpo.net/money/#.U2zmxoF_ubg

http://www.moneyexpo.net/money/sublocation-detail.

เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ธนาคารไทย

ประวัติพิพิธภัณฑ์ธนาคารไทย

           ตั้งแต่ก่อธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด ( มหาชน ) ตั้งมาจนถึงปัจจุบัน ธนาคารมีเอกสารสำคัญ และเครื่องมือเครื่องใช้จำนวนมาก อันบ่งบอกถึงวิวัฒนาการแห่งความเจริญก้าวหน้าในระบบการเงินการธนาคารของประเทศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นภาพในอดีตได้อย่างชัดเจน และด้วยตระหนักถึงคุณค่าของความรู้อันสืบเนื่องมาจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของระบบการเงินการธนาคาร ซึ่งเป็นสิ่งล้ำค่า และเป็นของหายากในปัจจุบัน ธนาคารจึงได้จัดสร้าง “ พิพิธภัณฑ์ธนาคารไทย ” ขึ้น เพื่อเป็นสถานที่ในการจัดแสดงสิ่งของล้ำค่าทางประวัติศาสตร์ด้านการเงินการธนาคารของชาติ สำหรับเป็นแหล่งค้นคว้าด้านวิชาการ อันเป็นประโยชน์ต่อคนรุ่นหลัง ซึ่งสามารถใช้เป็นที่ค้นคว้าเพิ่มเติมต่อไปได้

พิพิธภัณฑ์ เริ่มเปิดดำเนินการที่อาคารสำนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาดน้อย เมื่อปี พ.ศ. 2526 และได้ย้ายมาจัดแสดงที่สำนักงานใหญ่ รัชโยธิน โดยมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2539 ณ อาคารพิพิธภัณฑ์ธนาคารไทย และในโอกาสครบรอบ 100 ปี ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้มีการปรับปรุงและได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน มาทรงเยี่ยมชมอย่างเป็นทางการเมื่อวันอังคารที่ 30 มกราคม 2550 ในวาระครบรอบ 100 ปี ธนาคารไทยพาณิชย์

แผนผังพิพิธภัณฑ์ธนาคารไทย

ส่วนที่ 1 วิวัฒนาการเงินตรา 
ส่วนที่ 2 วิวัฒนาการธนาคาร 
ส่วนที่ 3 ต้นแบบธนาคารไทย
ส่วนที่ 4 ไทยพาณิชย์กับการก้าวสู่ยุคปัจจุบัน

ส่วนที่ 1 วิวัฒนาการเงินตรา

                           

                           

            ก่อนที่จะนำเงินตรามาใช้เป็นสื่อกลางในการซื้อขายกันดังในปัจจุบัน คนเราได้นำระบบการแลกเปลี่ยนผลิตผลของตน กับสิ่งอื่นที่ต้องการมาใช้ตั้งแต่ก่อนสมัยประวัติศาสตร์แล้ว แต่การแลกเปลี่ยนโดยตรงที่กล่าวนี้ไม่สะดวก เนื่องจากผลิตผลบางชนิด เป็นสิ่งมีชีวิต เช่น สัตว์เลี้ยงไม่สามารถตัดแบ่งกันได้ สินค้าที่นำมาแลกเปลี่ยนกัน มีคุณภาพไม่เท่ากัน นอกจากนี้ความต้องการของผู้ที่มีผลิตผล ที่ต้องการจะแลกเปลี่ยนทั้งสองฝ่ายไม่ตรงกัน การแลกเปลี่ยนจึงไม่อาจเกิดขึ้นได้

           เพื่อให้การแลกเปลี่ยนเป็นที่พอใจของทั้งสองฝ่าย คนเราจึงเริ่มนำเอาวัตถุมีค่าบางชนิด ซึ่งถือกันว่า เป็นของมีค่าในสังคมขณะนั้น มาเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน วัตถุที่นำมาใช้เป็นสื่อกลางนี้ มีหลากหลายชนิดแตกต่างกันไปในแต่ละสังคม และยุคสมัย เช่น ปศุสัตว์ ลูกปัด เกลือ เปลือกหอย ขนนก ขวานหิน หัวลูกธนู หนังสัตว์ ฟันปลาวาฬ เครื่องประดับ โลหะต่าง ๆ เป็นต้น

           สิ่งต่างๆ เหล่านี้ คนเราได้นำมาใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน จึงเกิดระบบการแลกเปลี่ยน โดยใช้สื่อกลางขึ้น ในบรรดาสิ่งต่างๆ ที่ใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน มากมายหลายชนิดนั้น แร่เงินและแร่ทองคำ มีคุณสมบัติที่เหนือกว่า ผลิตผลทางการเกษตร เช่น หายาก คงทน ตัดแบ่งเป็นชิ้นเล็ก ๆ ทอนค่าลงได้ โดยไม่เสียคุณสมบัติเดิม หลอมรวมกันเป็นก้อนใหญ่ขึ้นได้ พกพาสะดวก ทำเครื่องประดับได้งดงาม ผู้คนในสังคมต่างๆ ทั่วโลก จึงนิยมใช้โลหะทั้งสองชนิด เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์

                

                ส่วนที่ 2 วิวัฒนาการธนาคาร

                การเก็บอาหารและสิ่งมีค่านั้น เป็นนิสัยอย่างหนึ่ง ที่คนเราประพฤติปฏิบัติกันมา ตั้งแต่สมัยโบราณ ควบคู่กับประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติแล้ว เมื่อมีการนำสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนเข้ามาใช้ การเก็บรักษาทรัพย์สินตลอดจนอาหาร จึงค่อยๆ เปลี่ยนรูปมาเป็น การเก็บออมสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน สถานที่ซึ่งสามารถอำนวยความปลอดภัย ในการเก็บรักษาสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนจึงเกิดขึ้น

ต่อมา สถานที่รับฝากเหล่านี้ ได้นำสิ่งของสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน ที่รับฝากไว้ และมีจำนวนมากออกให้ยืม โดยได้รับผลตอบแทน กิจการธนาคารจึงเกิดขึ้น

                 ครั้นเมื่อมีการนำโลหะเงิน และโลหะทองมาใช้เป็นเงินตราแล้ว ด้วยมาตรฐานของเงินตรา ที่เป็นโลหะที่มีคุณสมบัติเหมือนกันทุกชิ้น จึงทำให้เกิดความสะดวก ในการชำระหนี้มากขึ้น การค้าขายจึงแพร่หลาย กว้างขวางมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อการเดินเรือสามารถทำได้กว้างขวางขึ้น การค้าขายทางทะเล ก็สามารถทำได้กว้างขวางตามไปด้วย ความจำเป็นในการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างสกุล ซึ่งมีน้ำหนัก และความบริสุทธิ์ของเนื้อเงินต่างกันก็เกิดขึ้น การส่งเงินไปชำระหนี้ และการรับฝาก การเรียกเก็บเงิน การให้กู้ยืมเงิน จึงเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้ธุรกิจการธนาคาร แพร่หลายและรุ่งเรืองต่อมา

                  ส่วนที่ 3 ต้นแบบธนาคารไทย

                  การติดต่อและค้าขายกับต่างประเทศ ที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้น เป็นเหตุสำคัญ ทำให้ต่างประเทศเห็นเป็นช่องทาง ที่จะหาประโยชน์ จากการที่ประเทศไทยขาดธนาคาร ที่จะทำธุรกิจ การธนาคารพาณิชย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธุรกิจการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ จึงได้เข้ามาเปิดสาขา ดำเนินกิจการในประเทศไทย โดยเริ่มตั้งแต่ พุทธศักราช 2431 เป็นต้นมา

                  และในที่สุด สาขาธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ ทั้ง 3 แห่ง ได้จัดพิมพ์ และนำบัตรธนาคาร เข้ามาใช้ในระบบการเงินของไทยด้วย ในระยะต่อมาด้วยความสำคัญของธุรกิจการธนาคาร ที่มีต่อการค้าและเศรษฐกิจของประเทศนั้น พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นมหิศรราชหฤทัย เสนาบดี กระทรวงพระคลังมหาสมบัติในขณะนั้น จึงทรงคิดตั้ง ธนาคารของชาติ หรือธนาคารกลางขึ้นก่อน เพื่อที่จะให้เป็น ตัวแทนทางการเงินของรัฐบาล แล้วยังจะทรงให้ ธนาคารของชาตินี้ เป็นผู้พิมพ์ธนบัตรของประเทศขึ้น และนำออกใช้อีกด้วย แต่ก็ต้องทรงระงับความคิดนี้ไว้

                  เนื่องจากบรรดาที่ปรึกษาทางการเงิน ชาวต่างประเทศพากันคัดค้าน พระองค์จึงทรงหันไป ปรับปรุงมาตราหน่วยเงินของไทย ให้เป็นระเบียบ แต่เพียงประการเดียว โดยทรงพิจารณา ลดหน่วยเงินตราของไทยลง จากเดิม 9 หน่วย ได้แก่ ชั่ง ตำลึง บาท สลึง เฟื้อง ซีก เสี้ยว อัฐ และโสฬส ให้เหลือเพียง 2 หน่วย ได้แก่ “บาท” และ “สตางค์” อันเป็นระบบทศนิยม ทำให้สะดวกแก่การคิดคำนวณ และลงบัญชี ในพุทธศักราช 2441 พร้อมกับได้เริ่มติดต่อกับประเทศอังกฤษ เพื่อพิมพ์ธนบัตร เข้ามาใช้ใน พุทธศักราช 2445

                   ระบบการเงินของไทย จึงประกอบด้วย เหรียญกษาปณ์ และธนบัตร เมื่อได้จัดรูปแบบของ ระบบเงินตราของประเทศเรียบร้อยแล้ว จึงประกาศยกเลิกการใช้เงินพดด้วง ชำระหนี้ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม พุทธศักราช 2447

                   ส่วนทางด้านความคิด จะจัดตั้งธนาคารขึ้นนั้น เมื่อยังไม่สามารถ จัดตั้งธนาคารของรัฐขึ้นได้ กรมหมื่นมหิศรราชหฤทัย จึงทรงหันไปพิจารณา ธนาคารของเอกชน หรือธนาคารพาณิชย์ ซึ่งทรงตระหนักดี ถึงความจำเป็นของประเทศ ที่ต้องมีการค้าขายกับต่างประเทศ ซึ่งมีปริมาณสูงขึ้นอยู่ตลอดเวลา

                   นอกจากนี้ ยังทรงเห็นถึงความยากลำบาก ของบรรดาพ่อค้าชาวไทย และจีน ที่ต้องติดต่อขอใช้บริการจาก สาขาธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ ที่มีอยู่ในขณะนั้น แต่ก็มิได้รับความสะดวก ประกอบกับ การที่ประเทศไทยยังไม่มีธนาคารพาณิชย์ ที่เป็นของคนไทยมารองรับ

                   พระองค์จึงทรงตัดสินพระทัย ที่จะจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ขึ้นมาให้จงได้ จึงทรงเห็นว่า น่าที่จะทดลองดำเนินงานดูก่อน ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ มีความรู้ในการบริหารธนาคารขึ้นแล้ว เมื่อจะขยายกิจการให้ใหญ่โตต่อไป ก็จะสามารถนำประสบการณ์ ไปใช้แก้ปัญหาต่าง ๆ ได้

                   ที่สำคัญคือ เป็นการฝึกให้ชาวไทย มีความรู้ในด้านการบริหารธนาคารพาณิชย์อีกด้วย พระองค์ทรงจัดหาเงินลงทุนได้ จำนวน 30,000 บาทแล้ว ก็ทรงเตรียมการจัดตั้ง ธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็ก โดยยื่นขออนุญาตจัดตั้ง “บุคคลัภย์” ขึ้น เริ่มสั่งซื้อกระดาษ เครื่องมือ เครื่องใช้ต่าง ๆ ติดต่อขอเช่าตึกแถวของพระคลังข้างที่ ตำบลบ้านหม้อ พร้อมทั้งจัดหาพนักงาน รวมทั้งผู้จัดการไว้ เตรียมทำพิธีเปิดดำเนินการต่อไป เมื่อได้รับอนุญาตแล้ว

ส่วนที่ 4 ไทยพาณิชย์กับการก้าวสู้ยุคปัจจุบัน

                  ภาพพจน์ของธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ปรากฏในความรู้สึกของสาธารณชน คือ ความมั่นคง มีผู้บริหารมืออาชีพ มีความเจริญเติบโตสูง เป็นผู้นำทางเทคโนโลยีการธนาคาร ในขณะที่มุ่งเน้น การนำเทคโนโลยีใหม่ มาบริการแก่ลูกค้า แต่ก็สามารถรักษาผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหุ้น ลูกค้าและพนักงานของธนาคาร

                  การนำเทคโนโลยี เข้ามาให้บริการแก่ลูกค้า นอกจากจะอำนวยความสะดวกรวดเร็วแล้ว ยังคำนึงถึงการเพิ่มคุณค่า ในบริการที่ให้แก่ลูกค้า และการแพร่ขยายธุรกิจไป ในด้านต่าง ๆ อีกด้วย ทั้งนี้ นับตั้งแต่ธนาคาร ได้นำระบบบริการเงินด่วน ATM เข้ามาบริการแก่ลูกค้า เป็นธนาคารแรกในประเทศไทยแล้ว ก็ดูเหมือนว่า เป็นก้าวสำคัญ ของการเปลี่ยนแปลงของการธนาคารพาณิชย์ไทย ไปสู่การเป็นธนาคารใน ระบบธนาคารพาณิชย์ สมัยใหม่ จากนั้นธนาคาร ได้สร้างศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ ไทยพาณิชย์ขึ้น เพื่อเก็บสำรองข้อมูล และเทคโนโลยีเพื่อพัฒนา และให้บริการแก่ลูกค้า และยังใช้เป็นข้อมูล ในการตัดสินใจด้านการบริหารที่มีประสิทธิภาพอีกด้วย

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ : http://www.thaibankmuseum.or.th/home.php.